“อาร์เดน” (R-den) เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ด ซึ่ง 21 เม็ดแรกที่มีสีขาวคือเม็ดยาฮอร์โมน โดยมีตัวยาฮอร์โมนเอสโตรเจน Ethinyl estradiol อยู่เม็ดละ 0.03 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนโปรเจสติน Levonorgestrel อีกเม็ดละ 0.15 มิลลิกรัม
ส่วน 7 เม็ดสุดท้ายที่มีสีเหลืองคือเม็ดยาหลอก หรืออาจเรียกว่าเม็ดแป้ง เนื่องจากไม่ได้มีตัวยาสำคัญใด ๆ
ในแผงของ “อาร์เดน ” จะมีลูกศรแสดงลำดับการใช้ โดยเริ่มจากลูกศรขนาดใหญ่ ที่อยู่ด้านซ้ายบนของแผง จากนั้นก็ให้รับประทานต่อตามการชี้บอกของลูกศรขนาดเล็กไปเรื่อย ๆ จนครบทั้ง 28 เม็ด
หากนำภาพเม็ดยามาใส่ไว้ที่แผงยา จะเห็นว่าสามแถวบนของแผงเป็นเม็ดสีขาว ซึ่งก็คือเม็ดยาฮอร์โมน รวมกันเท่ากับ 21 เม็ด ส่วนแถวล่างสุดเป็นเม็ดสีเหลือง เป็นเม็ดยาหลอก มีอยู่ 7 เม็ด
ดังนั้น เมื่อรับประทานเรียงตามลำดับลูกศรไปเรื่อย ๆ จนหมด ก็จะทำให้ผู้ใช้ได้รับฮอร์โมนติดต่อกันในช่วง 21 วันแรก และมีช่วงปลอดฮอร์โมนใน 7 วันสุดท้ายของแผงนั่นเองค่ะ
ถ้ารับประทาน “อาร์เดน” ย้อนศร หรือใช้เม็ดยาผิดตำแหน่ง แล้วทำให้เม็ดยาหลอกถูกนำมาใช้แทนเม็ดยาฮอร์โมน (ใช้เม็ดสีเหลืองแทนเม็ดสีขาว) ก็จะลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
จึงต้องแก้ไขด้วยการรับประทานเม็ดยาฮอร์โมน (เม็ดสีขาว) ทดแทนที่ขาดไป ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ถ้าใช้เม็ดยาฮอร์โมนสลับตำแหน่งกันเอง (ใช้เม็ดสีขาวแทนเม็ดสีขาว) หรือใช้เม็ดยาหลอกสลับกันเอง (ใช้เม็ดสีเหลืองแทนเม็ดสีเหลือง) ก็ไม่มีปัญหา เพราะประสิทธิภาพไม่ต่างกัน
จึงไม่ต้องแกะเม็ดยาในตำแหน่งที่ถูกต้องมารับประทานซ้ำอีก
- ตัวอย่างที่ 1 : รับประทานเม็ดยาผิดสี
เช่น เมื่อรับประทานเม็ดสีขาวที่เป็นเม็ดแรกของแถวที่สามไปแล้ว วันต่อมาก็ควรจะรับประทานเม็ดสีขาวที่อยู่ในวงกลมเขียว แต่กลับรับประทานผิด โดยไปรับประทานเม็ดสีเหลืองที่อยู่ในวงกลมแดงแทน
เมื่อรับประทานผิด โดยใช้เม็ดยาหลอก (เม็ดสีเหลือง) แทนเม็ดยาฮอร์โมน (เม็ดสีขาว) ก็จะทำให้ไม่ได้รับฮอร์โมน ในช่วงเวลาที่ควรได้รับ ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
จึงควรแก้ไขด้วยการรับประทานเม็ดที่ถูกต้องทันที หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
นั่นคือ ถ้ารู้ตัวก่อนที่จะถึงเวลารับประทานยาคุมเม็ดถัดไป ก็ให้แกะเม็ดสีขาวที่อยู่ในวงกลมเขียวมารับประทานทันทีที่นึกได้ แล้วรอรับประทานเม็ดสีขาวในวงกลมม่วงเมื่อถึงเวลารับประทานปกติ
หรือถ้าถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันแล้ว ก็ให้รับประทานเม็ดสีขาวทั้งสองเม็ดนั้นพร้อมกัน (แต่อาจทำให้คลื่นไส้/อาเจียน ปวดหรือเวียนศีรษะมากขึ้นนะคะ)
หลังจากนั้นก็ให้รับประทานเม็ดยาที่เหลืออยู่ในแผงต่อวันละเม็ด ตามลำดับลูกศร
แต่เมื่อถึงวันที่จะต้องรับประทานเม็ดสีเหลืองในวงกลมแดง ซึ่งไม่มีเม็ดยาอยู่ในแผงแล้ว เนื่องจากมีการแกะมาใช้ผิดไปก่อนหน้านี้ ก็ให้เว้นว่างในวันนั้นแทน
เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นการเว้นว่าง หรือการรับประทานเม็ดยาหลอก ก็ถือเป็นช่วงปลอดฮอร์โมนระหว่างรอต่อแผงใหม่ตามกำหนดเหมือนกัน
ซึ่งการเว้นว่างดังกล่าว จะทำให้มีช่วงปลอดฮอร์โมนครบ 7 วันตามปกติ
จากนั้นก็ต่อแผงใหม่ในวันถัดมา
แต่ถ้ากลัวว่าจะสับสนหากต้องเว้นว่างดังกล่าว หลังใช้ยาคุมแผงเดิมหมดแล้วก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ โดยไม่ต้องเว้นว่าง 1 วันทดแทนเม็ดยาหลอกที่ขาดหายไป 1 เม็ดก็ได้
เพราะการมีช่วงปลอดฮอร์โมนสั้นกว่ากำหนด ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยาคุมค่ะ
ส่วนผลในการคุมกำเนิด ให้พิจารณาเช่นเดียวกับกรณีที่ลืมรับประทานยา นั่นคือ หากมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมแผงนั้นแล้ว ถ้าพลาดการใช้เม็ดยาฮอร์โมนของอาร์เดนไม่ถึง 72 ชั่วโมง (นับจากเวลาที่ควรจะใช้ยาคุมเม็ดนั้น ไปหาเวลาที่ได้รับประทานจริง) จะถือว่ายังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง
ซึ่งตามตัวอย่างที่กล่าวไปข้างต้น มีการรับประทานผิดแค่เม็ดเดียว ซึ่งนับจากเวลาที่ควรจะใช้เม็ดสีขาวในวงกลมเขียว ไปหาเวลาที่ได้รับประทานจริง ก็จะห่างกันไม่เกิน 24 ชั่วโมง จึงถือว่ายังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องนะคะ
- ตัวอย่างที่ 2 : รับประทานผิดเม็ด แต่เป็นสีเดียวกัน
เช่น เมื่อรับประทานเม็ดสีขาวที่เป็นเม็ดสุดท้ายของแถวที่สองไปแล้ว วันต่อมาก็ควรจะรับประทานเม็ดสีขาวที่อยู่ในวงกลมเขียว แต่กลับรับประทานผิด โดยไปรับประทานเม็ดสีขาวที่อยู่ในวงกลมแดงแทน
ในกรณีนี้ ไม่มีปัญหาค่ะ เนื่องจากเม็ดยาทั้งสองมีสีเดียวกัน โดยเป็นเม็ดยาฮอร์โมนเหมือนกัน จึงไม่ต้องแกะเม็ดยาในตำแหน่งที่ถูกต้องมารับประทานซ้ำอีก
หลักสำคัญของการใช้ยาคุม “อาร์เดน” ก็คือ จะต้องรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันให้ครบ 21 วันก่อน แล้วตามด้วยการรับประทานเม็ดยาหลอกอีก 7 วัน ดังนั้น แม้จะสลับตำแหน่ง แต่ถ้ายังคงได้ใช้เม็ดสีขาวใน 21 วันแรก แล้วตามด้วยเม็ดสีเหลืองใน 7 วันสุดท้าย ก็ถือว่าตรงตามหลักการดังกล่าวนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การรับประทานตามลูกศรช่วยลดความเสี่ยงที่จะใช้ผิดได้ ดังนั้น ควรตรวจสอบลำดับการใช้ทุกครั้งก่อนรับประทาน และใช้ให้ถูกต้องตามลำดับนะคะ
เมื่อรับประทานผิด โดยใช้เม็ดสีขาวในวงกลมแดงแทนเม็ดสีขาวในวงกลมเขียวไปแล้ว ก็ถือว่าได้มีการใช้เม็ดยาฮอร์โมนเรียบร้อยแล้วในวันนั้น จึงไม่ต้องแกะเม็ดสีขาวในวงกลมเขียวมารับประทานซ้ำอีก
ให้รอรับประทานเม็ดสีขาวที่เหลืออยู่วันละเม็ดตามเดิม หมดแล้วจึงค่อยใช้เม็ดสีเหลืองต่อตามลำดับ
ดังนั้น หลังจากที่รับประทานเม็ดสีขาวในวงกลมแดงไปแล้ว ในวันถัดมา ก็ให้รับประทานเม็ดสีขาวที่เหลืออยู่ในแถว โดยจะใช้ย้อนศรต่อไปจนหมดแถวนี้เลยก็ได้ (นั่นคือ ใช้เรียงจากวงกลมแดงไปหาวงกลมเขียว ซึ่งตรงกันข้ามกับการชี้ของลูกศรสีน้ำเงินในแผง)
ใช้เม็ดสีขาวหมดแล้วจึงค่อยรับประทานเม็ดสีเหลืองในแถวสุดท้าย
หรือจะรับประทานเม็ดสีขาวที่เหลืออยู่ 6 เม็ด เรียงตามลูกศรสีน้ำเงินก็ได้เช่นกัน เช่น รับประทานเม็ดสีขาวในวงกลมเขียวก่อน แล้วต่อด้วยเม็ดสีขาวที่เหลืออีก 5 เม็ดตามลำดับ
ใช้เม็ดสีขาวไปจนหมดแถวนี้ แล้วจึงค่อยเริ่มรับประทานเม็ดสีเหลืองในแถวสุดท้ายเป็นลำดับถัดไป
และอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ไล่ลำดับเม็ดยาในแถวเทียบกับวันในสัปดาห์อยู่เสมอ สมมติว่าเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ในวันจันทร์ เมื่อไล่ลำดับตามลูกศร เม็ดแรกของแต่ละแถวก็จะตรงกับวันจันทร์ด้วยเช่นกัน
หากเผลอรับประทานเม็ดแรกในแถวที่สามแบบย้อนศร หากยังต้องการไล่ลำดับโดยเรียงตามลูกศรเหมือนเดิม ก็ให้เลือกเม็ดยามารับประทานตามการไล่ลำดับปกติ
เมื่อถึงวันอาทิตย์ ซึ่งไม่มีเม็ดสีขาวในวงกลมแดง เนื่องจากถูกแกะไปใช้แล้วในวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็ให้แกะเม็ดสีขาวในวงกลมเขียวไปใช้แทนค่ะ
จะเห็นว่ามีแนวทางแก้ไขได้หลายวิธี ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวก
และเช่นเดียวกัน ในกรณีที่ใช้ย้อนศร โดยการสลับเม็ดยาหลอกกับเม็ดยาหลอก (ใช้เม็ดสีเหลืองแทนเม็ดสีเหลือง) ก็สามารถแก้ไขตามแนวทางข้างต้นได้เช่นกันนะคะ