เริ่มเผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
ในแผงยาคุม “ไมนอซ” มีเม็ดยาอยู่ 28 เม็ด ซึ่งถูกจัดแบ่งเป็น 4 แถว
เม็ดยาสีเหลืองในลำดับที่ 1 – 24 จะอยู่ใน 3 แถวบน โดยมีแถวละ 8 เม็ด ถือเป็น “เม็ดยาฮอร์โมน” ที่มีตัวยา Ethinyl estradiol เม็ดละ 0.015 มิลลิกรัม รวมกับ Gestodene อีกเม็ดละ 0.060 มิลลิกรัม เหมือนกันทั้ง 24 เม็ด
ส่วนเม็ดยาสีเขียว 4 เม็ดในลำดับที่ 25 – 28 ซึ่งเป็นแถวล่างสุด ก็คือ “เม็ดยาหลอก” ที่ไม่มีตัวยาสำคัญใด ๆ แต่มีไว้ให้รับประทานในช่วงปลอดฮอร์โมน เพื่อป้องกันการลืมต่อยาคุมแผงใหม่
วิธีรับประทานยาคุม “ไมนอซ” ก็คือ ให้แกะเม็ดยาหมายเลข 1 มารับประทานเป็นเม็ดแรก จากนั้นก็ใช้ต่อวันละเม็ด เรียงตามตัวเลขลำดับไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบทั้ง 28 เม็ด หมดแล้วก็ต่อแผงใหม่ในวันถัดมา
นั่นหมายถึง ไม่ว่าจะเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ตรงกับวันใดในสัปดาห์ หรือจะเป็นวันที่เท่าไหร่ในปฏิทินก็ตาม ก็จะต้องแกะเม็ดยาหมายเลข 1 มาใช้เป็นลำดับแรกเสมอ
หลังจากที่แกะเม็ดยาหมายเลข 1 มารับประทานเป็นเม็ดแรกของแผงแล้ว จากนั้นก็ใช้ต่อตามลำดับไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงหมายเลข 28 ซึ่งเป็นเม็ดสุดท้ายในแผงค่ะ
การใช้ยาคุม “ไมนอซ” ตามลำดับดังกล่าว จะทำให้ได้รับฮอร์โมนต่อเนื่องกันใน 24 วันแรกที่รับประทานเม็ดยาฮอร์โมน แล้วต่อด้วยช่วงปลอดฮอร์โมนใน 4 วันสุดท้ายที่รับประทานเม็ดยาหลอก
ในแผงของยาคุม “ไมนอซ” มีการแยกกลุ่มอย่างชัดเจนระหว่างเม็ดยาฮอร์โมนและเม็ดยาหลอก ทั้งจากรูปลักษณ์ภายนอกของเม็ดยา ที่ขนาดและสีมีความแตกต่าง ยังรวมไปถึงตำแหน่งจัดวาง ที่ไม่รวมเอาไว้ในแถวเดียวกันอีกด้วย
แต่แม้จะพยายามสร้างความแตกต่างระหว่างเม็ดยาทั้ง 2 กลุ่มอย่างไร ถ้าไม่ตรวจสอบให้ดี ก็อาจเผลอแกะมาใช้ผิดได้ และถ้าแกะเม็ดยาหลอกมารับประทานแทนเม็ดยาฮอร์โมน ก็อาจลดประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์
ก่อนที่จะรับประทานยาคุมในแต่ละวัน จึงควรตรวจสอบตัวเลขที่ระบุไว้ แล้วแกะเม็ดยามาใช้เรียงตามลำดับนะคะ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหมายเลขเม็ดยาที่จะใช้ ไม่จำเป็นต้องตรงกับวันที่ในปฏิทิน จึงเป็นเรื่องยากสำหรับการตรวจสอบประจำวัน และอาจรับประทานซ้ำซ้อนโดยไม่ตั้งใจ หรืออาจไม่รู้ตัวเลยว่าลืมใช้ไปบ้างหรือเปล่า
จึงควรมีการไล่ลำดับเม็ดยาเทียบเคียงกับวันในสัปดาห์ด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบประจำวัน
ซึ่งผู้ใช้ “ไมนอซ” สามารถใช้เคล็ดลับช่วยจำว่า ถ้ารับประทานถูกต้องและครบถ้วน วันที่เริ่มเม็ดแรกของแถวที่ 1, 2, 3 และ 4 ควรจะตรงกับวันในสัปดาห์ตามลำดับที่ต่อเนื่องกัน จากนั้นค่อยไล่ลำดับว่าเม็ดยาอื่น ๆ ในแถวจะตรงกับวันใด
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ในวันจันทร์ นั่นหมายถึง วันที่ใช้เม็ดยาหมายเลข 1 ซึ่งเป็นเม็ดแรกของแถวที่ 1 จะตรงกับวันจันทร์
ถัดจากวันจันทร์ก็คือวันอังคาร ดังนั้น วันที่ใช้เม็ดยาหมายเลข 9 ซึ่งเป็นเม็ดแรกของแถวที่ 2 ก็จะตรงกับวันอังคาร
ถัดจากวันอังคารก็คือวันพุธ ดังนั้น วันที่ใช้เม็ดยาหมายเลข 17 ซึ่งเป็นเม็ดแรกของแถวที่ 3 ก็จะตรงกับวันพุธ
และถัดจากวันพุธก็คือวันพฤหัสบดี ดังนั้น วันที่ใช้เม็ดยาหมายเลข 25 ซึ่งเป็นเม็ดแรกของแถวที่ 4 ก็จะตรงกับวันพฤหัสบดีค่ะ
ถ้าจะตรวจสอบเม็ดยาในแถวที่เท่าไหร่ ก็ให้ดูว่ารับประทานเม็ดแรกของแถวนั้นตรงกับวันใดของสัปดาห์ จากนั้นก็ไล่ลำดับไปหาเม็ดยาที่ต้องการได้เลย
เช่น สมมติว่าเริ่มแผงนี้ในวันจันทร์ และกำลังจะรับประทานยาคุมในวันเสาร์ ซึ่งเม็ดยาในลำดับที่รอให้แกะมาใช้ ก็คือหมายเลข 20 จะถือว่าถูกต้องหรือไม่
จากเคล็ดลับที่ว่า เม็ดแรกของแถวที่ 1, 2, 3 และ 4 ของยาคุม “ไมนอซ” ควรจะตรงกับวันในสัปดาห์ตามลำดับที่ต่อเนื่องกัน เมื่อเม็ดยาหมายเลข 1 ตรงกับวันจันทร์ ดังนั้น เม็ดยาหมายเลข 17 ซึ่งเป็นเม็ดแรกของแถวที่กำลังใช้อยู่ ก็ควรจะตรงกับวันพุธ
จากนั้นก็ไล่ลำดับจากเม็ดแรกของแถว ไปหาเม็ดยาที่ต้องการตรวจสอบ ได้เป็น หมายเลข 17 – วันพุธ, หมายเลข 18 – วันพฤหัสบดี, หมายเลข 19 – วันศุกร์, หมายเลข 20 – วันเสาร์
ดังนั้น การแกะเม็ดยาหมายเลข 20 มาใช้ในวันเสาร์ จึงถือว่าใช้ถูกต้องแล้วนะคะ
ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานเม็ดยาหลอก โดยมักจะมาหลังใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” หมดไปแล้ว 2 – 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อยค่ะ
และเนื่องจากยาคุม “ไมนอซ” มีเม็ดยาฮอร์โมนอยู่ 24 เม็ด ประจำเดือนจึงมักจะมาตรงกับวันที่ใช้เม็ดยาหมายเลข 27 หรือ 28 ของแผงนั่นเอง
หลังจากที่ใช้ยาคุม “ไมนอซ” ครบ 28 เม็ดแล้ว ก็ต่อยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหมดก่อน และเมื่อเริ่มแผงใหม่ตรงตามกำหนดเช่นนี้ จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันทุกวันนะคะ
ซึ่งมีเคล็ดลับช่วยจำว่า ถ้ารับประทานถูกต้องและครบถ้วน วันที่เริ่มเม็ดแรกของแต่ละแผงจะตรงกับวันเดียวกันของสัปดาห์
ดังนั้น ถ้าเริ่มเม็ดแรกของแผงเดิมตรงกับวันจันทร์ วันที่ต่อยาคุมแผงใหม่ ก็ควรจะตรงกับวันจันทร์เช่นกันค่ะ