ยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล (Levonorgestrel) รูปแบบแผงละ 2 เม็ดที่มีจำหน่ายในประเทศไทย มีอยู่หลายยี่ห้อเลยค่ะ ได้แก่ โพสตินอร์, มาดอนน่า, แมรี่ พิงค์, แอปคาร์ นอร์แพก, เลดี้นอร์, แจนนี่ และ เอ-โพสน็อกซ์
ซึ่งวิธีดั้งเดิมของการรับประทานยาคุมฉุกเฉินรูปแบบนี้ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารกำกับยา จะแนะนำให้รับประทานยา 1 เม็ด ภายใน 24 ชั่วโมง หรือไม่นานเกินกว่า 72 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ และต้องรับประทานซ้ำอีก 1 เม็ดหลังจากที่รับประทานยาเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง
แต่มักพบปัญหาว่ามีการลืม แล้วไม่ได้รับประทานเม็ดที่สองต่อจนครบขนาด ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน และเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์มากกว่าที่ควรจะเป็น
ในกรณีนี้ สมาคมสูตินรีแพทย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา (ACOG) ได้ให้คำแนะนำไว้เมื่อปี ค.ศ.2010 ว่า แม้จะใช้ไม่ทัน 12 ชั่วโมง แต่ก็ยังสามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่สองได้ หากยังไม่เกิน 24 ชั่วโมงนับจากเวลาที่รับประทานเม็ดแรกไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน หลาย ๆ แนวทาง รวมทั้งของ ACOG เองในปี ค.ศ.2015 แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรลแบบครบขนาดในครั้งเดียวเลยนะคะ เนื่องจากประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าการแยกรับประทาน แต่ใช้สะดวกและไม่ต้องกังวลว่าจะลืมอีกด้วย
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO), ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (CDC) และสมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (AAP) ยังแนะนำว่า แม้จะเกิน 72 ชั่วโมงไปแล้ว ก็ยังสามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินได้ ถ้ายังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ (อ่านเพิ่มเติม “รับประทานยาคุมฉุกเฉินหลัง 72 ชั่วโมงได้มั้ย”)
หากคุณผู้อ่านรับประทานยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ดตามวิธีดั้งเดิม และรับประทานเม็ดแรกไปแล้ว แต่ลืมรับประทานเม็ดที่สองในอีก 12 ชั่วโมงถัดมา แนะนำวิธีแก้ไขดังนี้ค่ะ
- กรณีที่ 1: ถ้านับจากเวลาที่รับประทานเม็ดแรก ไปหาเวลาที่นึกได้ ยังไม่เกิน 24 ชั่วโมง
ให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่สองทันทีที่นึกได้ หรืออย่างช้าไม่เกิน 24 ชั่วโมงนับจากเวลาที่รับประทานเม็ดแรก
ยกตัวอย่างเช่น ถ้ารับประทาน “โพสตินอร์” เม็ดแรกในเวลา 18.00 น. ของวันพุธ ในเวลา 12 ชั่วโมงต่อมา ซึ่งตรงกับเวลา 06.00 น. ของวันพฤหัสบดี ก็ควรจะรับประทานเม็ดที่สองตามไป
ในกรณีที่ลืม แล้วมานึกได้ในภายหลัง ก็ให้รับประทาน “โพสตินอร์” เม็ดที่สองทันทีที่นึกได้ หรืออย่างช้าไม่เกิน 18.00 น. ของวันพฤหัสบดีนะคะ
- กรณีที่ 2: ถ้าเวลาที่นึกได้ ห่างจากเวลาที่รับประทานเม็ดแรกเกิน 24 ชั่วโมงไปแล้ว แต่ยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
ให้ซื้อยาคุมฉุกเฉินเพิ่มอีก 1 แผง โดยจะเป็นยี่ห้อใดก็ได้ และจะเป็นรูปแบบแผงละ 1 เม็ดหรือ 2 เม็ดก็ได้ แล้วให้รับประทานแผงใหม่แบบครบขนาดในครั้งเดียวในทันทีที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
ส่วนยาคุมฉุกเฉินที่เหลืออยู่ 1 เม็ดในแผงเดิม สามารถทิ้งได้ค่ะ ไม่ต้องรับประทานซ้ำอีก
ยกตัวอย่างเช่น ถ้ารับประทาน “โพสตินอร์” เม็ดแรกในเวลา 18.00 น. ของวันพุธ แต่ลืมรับประทานเม็ดที่สอง แล้วมานึกได้หลังเวลา 18.00 น. ของวันพฤหัสบดี
จะเห็นได้ว่า เวลาที่นึกได้ ห่างจากเวลาที่รับประทานเม็ดแรกมาเกิน 24 ชั่วโมงแล้ว
ในกรณีนี้ ถือว่า “โพสตินอร์” ที่รับประทานไป 1 เม็ดนั้น จะไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์นะคะ เนื่องจากมีการใช้ไม่ครบขนาด
แต่สมมติว่าเวลาที่มีเพศสัมพันธ์แล้วเกิดปัญหาถุงยางฉีกขาด คือเวลา 17.00 น. ของวันพุธ หากนับมาถึงเวลาที่นึกได้ ยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็สามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าวได้อีกครั้ง
จึงควรซื้อยาคุมฉุกเฉินมาเพิ่มอีก 1 แผง ซึ่งจะใช้ “โพสตินอร์” เหมือนเดิมก็ได้ หรือจะเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น ๆ แทนก็ได้เช่นกัน
ในกรณีที่ใช้ “โพสตินอร์”, “มาดอนน่า”, “แมรี่ พิงค์”, “แอปคาร์ นอร์แพก”, “เลดี้นอร์”, “แจนนี่” หรือ “เอ-โพสน็อกซ์” ซึ่งเป็นยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็ให้รับประทานทั้งสองเม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว ทันทีที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
แต่ในกรณีที่ใช้ “เมเปิ้ล ฟอร์ท”, “แทนซี วัน”, “มาดอนน่า วัน“, “รีโวค-1.5” หรือ “โพสต์ 1 ฟอร์ต” ซึ่งเป็นยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็ให้รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว ทันทีที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
ส่วน “โพสตินอร์” แผงเดิมที่มีเม็ดยาเหลืออยู่ 1 เม็ด ให้ทิ้งได้เลยนะคะ เพราะถือว่ามีการใช้ยาคุมฉุกเฉินแผงใหม่ครบขนาดไปแล้ว ต่อให้รับประทานเม็ดยาที่เหลืออยู่รวมไปด้วยอีก ก็ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ แต่จะทำให้ผลข้างเคียงจากยาเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
การแก้ไขตามที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ 1 หรือ 2 หากแก้ไขได้ภายในช่วงเวลา 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ถือว่ายังมีประสิทธิภาพในการป้องกันใกล้เคียงกับที่คาดไว้เดิม
แต่หากเป็นการใช้ภายในช่วงเวลา 72 – 120 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ แม้ว่าจะยังสามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินได้ และดีกว่าที่จะไม่ใช้เลย แต่ประสิทธิภาพก็ลดลงตามเวลาที่ผ่านไปค่ะ