ลืมรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของ “เจนนี่ เอฟ.เอ็ม.พี.” ต่อเนื่องกัน 2 เม็ด หรือมากกว่า ตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึ้นไป และเม็ดใดเม็ดหนึ่งหรือทุกเม็ดที่ลืม อยู่ในแถวแรกของแผง
ตัวอย่างที่ 1: ผู้ใช้เริ่มยาคุมแผงนี้ในวันพุธ แต่ลืมรับประทานเม็ดที่ 7 และ 8 ซึ่งตรงกับวันอังคารและวันพุธ ในเวลา 21.00 น. แล้วนึกขึ้นได้ในวันพฤหัสบดี เวลา 21.00 น.
จะเห็นได้ว่ามีการขาดยาต่อเนื่องกัน 48 ชั่วโมงพอดี และเม็ดยาส่วนหนึ่งที่ลืมใช้ก็อยู่ในแถวแรกของแผง
เมื่อนึกได้ในเวลารับประทานยาคุมประจำวัน ก็ให้รับประทาน “เม็ดวันพุธ” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ลืมล่าสุด” พร้อมกับ “เม็ดวันพฤหัส” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” ในเวลา 21.00 น.
ส่วน “เม็ดวันอังคาร” ที่ลืมใช้ ให้แกะทิ้งไปเลย (หรือจะเก็บไว้เป็นเม็ดยาสำรองก็ได้ หากไม่กังวลว่าจะสับสนและใช้ผิด)
หลังจากนั้น ก็รับประทานต่อวันละเม็ดตามปกติไปจนหมดแผง และเมื่อหมดแผงแล้วก็ให้ต่อแผงใหม่ในวันถัดมา
ตัวอย่างที่ 2: ผู้ใช้เริ่มยาคุมแผงนี้ในวันพุธ แต่ลืมรับประทานเม็ดที่ 7, 8 และ 9 ซึ่งตรงกับวันอังคาร, วันพุธ และวันพฤหัสบดี ในเวลา 21.00 น. แล้วนึกขึ้นได้ในวันศุกร์ เวลา 08.00 น.
จะเห็นได้ว่ามีการขาดยาต่อเนื่องกันมากกว่า 48 ชั่วโมง และเม็ดยาส่วนหนึ่งที่ลืมใช้ก็อยู่ในแถวแรกของแผง
แต่เมื่อยังไม่ถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวัน ก็ให้รับประทาน “เม็ดวันพฤหัส” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ลืมล่าสุด” ทันทีที่นึกได้ แล้วรอรับประทาน “เม็ดวันศุกร์” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” ในเวลา 21.00 น.
ส่วนอีก 2 เม็ดที่ลืมใช้ นั่นคือ “เม็ดวันอังคาร” และ “เม็ดวันพุธ” ให้แกะทิ้งไปเลย (หรือจะเก็บไว้เป็นเม็ดยาสำรองก็ได้ หากไม่กังวลว่าจะสับสนและใช้ผิด)
หลังจากนั้น ก็รับประทานต่อวันละเม็ดตามปกติไปจนหมดแผง และเมื่อหมดแผงแล้วก็ให้ต่อแผงใหม่ในวันถัดมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อลืมรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของ “เจนนี่ เอฟ.เอ็ม.พี.” ต่อเนื่องกัน 2 เม็ดหรือมากกว่า ตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึ้นไป ทั้งที่ยังใช้ยาคุมแผงนี้ติดต่อกันไม่ครบ 7 วัน ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะยับยั้งการตกไข่ในรอบนี้ไม่ทันนะคะ
ดังนั้น นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมารอบล่าสุด มาจนถึงปัจจุบัน หากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
และต่อจากนี้ ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือต้องป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ไปจนกว่าจะมีการใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันจนครบ 7 วัน
เช่น ถ้ากลับมารับประทานยาคุมในวันศุกร์ และใช้ต่อเนื่องกันทุกวัน ก็จะถือว่าครบ 7 วันเมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันในวันศุกร์ถัดมานั่นเอง
การรับประทานยาคุมไม่ตรงเวลาหรือลืมรับประทาน นอกจากจะส่งผลกระทบถึงประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดแล้ว ยังอาจทำให้เกิดปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ง่าย ต่อไปจึงควรเพิ่มความระมัดระวังและรับประทานยาคุมให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ
แต่ถ้ายังลืมรับประทานยาคุมอยู่อีกเรื่อย ๆ การเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีผลป้องกันนาน เช่น การฉีดยาคุมกำเนิด, การฝังยาคุมกำเนิด และการใส่ห่วงอนามัย อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า จึงควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมค่ะ
