กินยาคุม “มาร์นอน” ย้อนศร

                “มาร์นอน” (Marnon) เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ด

                ซึ่ง 21 เม็ดแรกที่มีสีขาว คือ เม็ดยาฮอร์โมน โดยมีตัวยาฮอร์โมนเอสโตรเจน Ethinyl estradiol เม็ดละ 0.05 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนโปรเจสติน Norgestrel อีกเม็ดละ 0.5 มิลลิกรัม

                ส่วน 7 เม็ดสุดท้ายที่มีสีแดง คือ เม็ดยาหลอก หรืออาจเรียกว่าเม็ดแป้ง เนื่องจากไม่ได้มีตัวยาสำคัญใด ๆ

 

                ในแผงของ “มาร์นอน ” จะมีลูกศรแสดงลำดับการใช้ โดยเริ่มจากเม็ดยาที่อยู่ด้านซ้ายบนของแผง จากนั้นก็ให้รับประทานต่อตามการชี้บอกของลูกศรไปเรื่อย ๆ จนครบทั้ง 28 เม็ด

 

                หากนำภาพเม็ดยามาใส่ไว้ที่แผงยา จะเห็นว่าสามแถวบนของแผงเป็นเม็ดสีขาว ซึ่งก็คือเม็ดยาฮอร์โมน รวมกันเท่ากับ 21 เม็ด ส่วนเม็ดยาในแถวล่างสุดที่มีสีแดง เป็นเม็ดยาหลอก มีอยู่ 7 เม็ด

blank

                ดังนั้น เมื่อรับประทานเรียงตามลำดับลูกศรไปเรื่อย ๆ จนหมด ก็จะทำให้ผู้ใช้ได้รับฮอร์โมนติดต่อกันในช่วง 21 วันแรก และมีช่วงปลอดฮอร์โมนใน 7 วันสุดท้ายของแผงนั่นเองค่ะ

 

                ถ้ารับประทาน “มาร์นอน” ย้อนศร หรือใช้เม็ดยาผิดตำแหน่ง แล้วทำให้เม็ดยาหลอกถูกนำมาใช้แทนเม็ดยาฮอร์โมน (ใช้เม็ดสีแดงแทนเม็ดสีขาว) ก็จะลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด จึงต้องแก้ไขด้วยการรับประทานเม็ดยาฮอร์โมน (เม็ดสีขาว) ทดแทนที่ขาดไป ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

                แต่ถ้าใช้เม็ดยาฮอร์โมนสลับตำแหน่งกันเอง (ใช้เม็ดสีขาวแทนเม็ดสีขาว) หรือใช้เม็ดยาหลอกสลับกันเอง (ใช้เม็ดสีแดงแทนเม็ดสีแดง) ก็ไม่มีปัญหา เพราะประสิทธิภาพไม่ต่างกัน จึงไม่ต้องแกะเม็ดยาในตำแหน่งที่ถูกต้องมารับประทานซ้ำอีก

 

  • ตัวอย่างที่ 1 : รับประทานเม็ดยาผิดสี

                เช่น เมื่อรับประทานเม็ดสีขาวที่เป็นเม็ดแรกของแถวที่สามไปแล้ว วันต่อมาก็ควรจะรับประทานเม็ดสีขาวที่อยู่ในวงกลมเขียว แต่กลับรับประทานผิด โดยไปรับประทานเม็ดสีแดงที่อยู่ในวงกลมม่วงแทน

                เมื่อรับประทานผิด โดยใช้เม็ดยาหลอก (เม็ดสีแดง) แทนเม็ดยาฮอร์โมน (เม็ดสีขาว) ก็จะทำให้ไม่ได้รับฮอร์โมน ในช่วงเวลาที่ควรได้รับ ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด

                จึงควรแก้ไขด้วยการรับประทานเม็ดที่ถูกต้องทันที หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

                นั่นคือ ถ้ารู้ตัวก่อนที่จะถึงเวลารับประทานยาคุมเม็ดถัดไป ก็ให้แกะเม็ดสีขาวที่อยู่ในวงกลมเขียวมารับประทานทันทีที่นึกได้ แล้วรอรับประทานเม็ดสีขาวที่อยู่ถัดไปเมื่อถึงเวลารับประทานปกติ

blank

                หรือถ้าถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันแล้ว  ก็ให้รับประทานเม็ดสีขาวในวงกลมเขียว พร้อมกับเม็ดสีขาวในลำดับถัดไป (แต่การรับประทานเม็ดยาฮอร์โมน 2 เม็ดพร้อมกันก็อาจทำให้คลื่นไส้/อาเจียน ปวดหรือเวียนศีรษะมากขึ้นนะคะ)

                หลังจากนั้นก็ให้รับประทานเม็ดยาที่เหลืออยู่ในแผงต่อวันละเม็ด ตามลำดับลูกศร

 

                แต่เมื่อถึงวันที่จะต้องรับประทานเม็ดสีแดงในวงกลมม่วง ซึ่งไม่มีเม็ดยาอยู่ในแผงแล้ว เนื่องจากมีการแกะมาใช้ผิดไปก่อนหน้านี้ ก็ให้เว้นว่างในวันนั้นแทน เพื่อให้มีช่วงปลอดฮอร์โมนครบ 7 วันตามปกติ

                จากนั้นก็ต่อแผงใหม่ในวันถัดมา

 

                หรือถ้ากลัวว่าจะสับสน ก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่โดยไม่ต้องเว้นว่างทดแทนเม็ดยาหลอกที่หายไปก็ได้ เพราะแม้จะทำให้รอบนี้มีช่วงปลอดฮอร์โมนสั้นกว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยาคุมค่ะ

 

                ส่วนผลในการคุมกำเนิด ให้พิจารณาเช่นเดียวกับกรณีที่ลืมรับประทานยา นั่นคือ หากมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมแผงนั้นแล้ว ถ้าพลาดการใช้เม็ดยาฮอร์โมนของมาร์นอนไม่ถึง 48 ชั่วโมง (นับจากเวลาที่ควรจะใช้ยาคุมเม็ดนั้น ไปหาเวลาที่ได้รับประทานจริง) จะถือว่ายังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง

            ซึ่งตามตัวอย่างที่กล่าวไปข้างต้น มีการรับประทานผิดแค่เม็ดเดียว ซึ่งนับจากเวลาที่ควรจะใช้เม็ดสีขาวในวงกลมเขียว ไปหาเวลาที่ได้รับประทานจริง ก็จะห่างกันไม่เกิน 24 ชั่วโมง จึงถือว่ายังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องนะคะ

 

 

  • ตัวอย่างที่ 2 : รับประทานผิดเม็ด แต่เป็นสีเดียวกัน

                เช่น เมื่อรับประทานเม็ดสีขาวที่เป็นเม็ดสุดท้ายของแถวที่สองไปแล้ว เม็ดยาที่ควรใช้เป็นลำดับถัดไป ก็คือ เม็ดยาสีขาวที่อยู่ซ้ายสุดของแถวที่สาม (เมื่อมองจากด้านที่มีลูกศรชี้บอก) แต่กลับรับประทานผิด โดยแกะเม็ดยาสีขาวที่อยู่ขวาสุดของแถวที่สามมาใช้แทน

                ในกรณีนี้ ไม่มีปัญหาค่ะ เนื่องจากเม็ดยาทั้งสองมีสีเดียวกัน โดยเป็นเม็ดยาฮอร์โมนเหมือนกัน จึงไม่ต้องแกะเม็ดยาในตำแหน่งที่ถูกต้องมารับประทานซ้ำอีก

 

            หลักสำคัญของการใช้ยาคุม “มาร์นอน” ก็คือ จะต้องรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันให้ครบ 21 วันก่อน แล้วตามด้วยการรับประทานเม็ดยาหลอกอีก 7 วัน ดังนั้น แม้จะสลับตำแหน่ง แต่ถ้ายังคงได้ใช้เม็ดสีขาวใน 21 วันแรก แล้วตามด้วยเม็ดสีแดงใน 7 วันสุดท้าย ก็ถือว่าตรงตามหลักการดังกล่าวนั่นเอง

            อย่างไรก็ตาม การรับประทานตามลูกศรช่วยลดความเสี่ยงที่จะใช้ผิดได้ ดังนั้น ควรตรวจสอบลำดับการใช้ทุกครั้งก่อนรับประทาน และใช้ให้ถูกต้องตามลำดับนะคะ

 

                เมื่อรับประทานผิด โดยใช้เม็ดสีขาวในวงกลมม่วงแทนเม็ดสีขาวในวงกลมเขียวไปแล้ว ก็ถือว่าได้มีการใช้เม็ดยาฮอร์โมนเรียบร้อยแล้วในวันนั้น จึงไม่ต้องแกะเม็ดสีขาวในวงกลมเขียวมารับประทานซ้ำอีก แต่ให้รอรับประทานเม็ดสีขาวที่เหลืออยู่วันละเม็ดตามเดิม หมดแล้วจึงค่อยใช้เม็ดสีแดงต่อตามลำดับ

 

                วิธีแรกที่จะแนะนำ คือ ให้รับประทานเม็ดยาในแถวนี้ย้อนศรต่อไปจนหมดแถว (ใช้เรียงจากวงกลมม่วงไปหาวงกลมเขียว ตามการชี้ของลูกศรสีแดง ซึ่งตรงกันข้ามกับการชี้ของลูกศรสีน้ำเงินที่ระบุไว้ในแผง)

                เมื่อใช้เม็ดสีขาวในแถวนี้หมดแล้ว จึงค่อยรับประทานเม็ดสีแดงในแถวสุดท้ายตามลำดับปกติ

blank

 

                หรือวิธีที่สอง คือ ให้รับประทานเม็ดสีขาวที่เหลืออยู่ 6 เม็ดในแถวนี้ เรียงตามลูกศร

                หมดแถวนี้แล้วก็รับประทานเม็ดสีแดงในแถวสุดท้ายเป็นลำดับถัดไป

blank

 

                และวิธีสุดท้ายที่จะแนะนำ เหมาะสำหรับผู้ที่ไล่ลำดับเม็ดยาในแถวเทียบกับวันในสัปดาห์อยู่เสมอ สมมติว่าเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ในวันจันทร์ เมื่อไล่ลำดับตามลูกศร เม็ดแรกของแต่ละแถวก็จะตรงกับวันจันทร์ด้วยเช่นกัน

                หากเผลอรับประทานเม็ดแรกในแถวที่สามแบบย้อนศร หากยังต้องการไล่ลำดับโดยเรียงตามลูกศรเหมือนเดิม ก็ให้เลือกเม็ดยามารับประทานตามการไล่ลำดับปกติ

                เมื่อถึงวันอาทิตย์ ซึ่งไม่มีเม็ดสีขาวในวงกลมม่วง เนื่องจากถูกแกะไปใช้แล้วในวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็ให้แกะเม็ดสีขาวในวงกลมเขียวไปใช้แทนค่ะ

blank

 

                จะเห็นว่ามีแนวทางแก้ไขได้หลายวิธี ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวก

                และเช่นเดียวกัน ในกรณีที่ใช้ย้อนศร โดยการสลับเม็ดยาหลอกกับเม็ดยาหลอก (ใช้เม็ดสีแดงแทนเม็ดสีแดง) ก็สามารถแก้ไขตามแนวทางข้างต้นได้เช่นกันนะคะ