ลืมกินยาคุม “เฮอร์ซ”

ลืมรับประทานยาคุมเฮอร์ซ

ลืมรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของ “เฮอร์ซ” ต่อเนื่องกัน 2 เม็ด หรือมากกว่า โดยเวลาที่ลืมเม็ดแรกกับเวลาที่นึกได้ ห่างกันอย่างน้อย 48 ชั่วโมง และเม็ดใดเม็ดหนึ่งหรือทั้งหมด อยู่ในลำดับที่ 18 – 24 ของแผง

 

                ตัวอย่างที่ 1: ลืมรับประทาน “เม็ดที่ 17” และ “เม็ดที่ 18” ในเวลา 21.00 น. ของวันพุธและวันพฤหัสบดี ตามลำดับ แล้วมานึกขึ้นได้ในเวลา 21.00 น. ของวันศุกร์

                นับจากเวลาที่ลืมเม็ดแรก (21.00 น. วันพุธ) ไปหาเวลาที่นึกได้ (21.00 น. วันศุกร์) จะเห็นได้ว่าห่างกัน 48 ชั่วโมง

                และเม็ดยาที่ลืมใช้ (เม็ดใดเม็ดหนึ่งหรือทั้งหมด) ก็อยู่ในลำดับที่ 18 – 24 ของแผง

 

                เมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันแล้ว ก็ให้แกะ “เม็ดที่ 18” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ลืมล่าสุด” มารับประทานพร้อมกับ “เม็ดที่ 19” ที่ต้องใช้ในวันนั้นได้เลย

                ส่วน “เม็ดที่ 17” ซึ่งเป็นอีกเม็ดที่ลืมรับประทาน ให้แกะทิ้งไป หรือจะเก็บไว้เป็นเม็ดยาสำรองเผื่อจำเป็นต้องใช้ (เช่น ใช้ซ้ำหากอาเจียน “เม็ดยาฮอร์โมน” ภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทาน หรือใช้แทน “เม็ดยาฮอร์โมน” ที่ทำหาย) ก็ได้เช่นกัน

                หลังจากนั้น ก็รับประทานต่อวันละเม็ดตามปกติ แต่เมื่อใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” หมดแล้ว ก็ให้ต่อแผงใหม่ในวันถัดมา นั่นคือ ให้ข้ามการใช้ “เม็ดยาหลอก” ในลำดับที่ 25 – 28 ของแผงนี้ไปเลย

 

 

                ตัวอย่างที่ 2: ลืมรับประทาน “เม็ดที่ 17”, “เม็ดที่ 18” และ “เม็ดที่ 19” ในเวลา 21.00 น. ของวันพุธ, วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ ตามลำดับ แล้วมานึกขึ้นได้ในเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์

                นับจากเวลาที่ลืมเม็ดแรก (21.00 น. วันพุธ) ไปหาเวลาที่นึกได้ (08.00 น. วันเสาร์) จะเห็นได้ว่าห่างกัน 59 ชั่วโมง

                และเม็ดยาที่ลืมใช้ (เม็ดใดเม็ดหนึ่งหรือทั้งหมด) ก็อยู่ในลำดับที่ 18 – 24 ของแผง

 

                เมื่อยังไม่ถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวัน ก็ให้แกะ “เม็ดที่ 19” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ลืมล่าสุด” มารับประทานทันทีที่นึกได้ แล้วรอใช้ “เม็ดที่ 20” ในเวลา 21.00 น. ของวันเสาร์ตามปกติ

                ส่วน “เม็ดที่ 17” และ “เม็ดที่ 18” ซึ่งลืมรับประทานเช่นกัน ให้แกะทิ้งไปได้เลย หรือจะเก็บไว้เป็นเม็ดยาสำรองเผื่อจำเป็นต้องก็ได้

                หลังจากนั้น ก็รับประทานต่อวันละเม็ด แต่เมื่อใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” หมดก็ให้เริ่มแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย โดยไม่ต้องใช้เม็ดยาหลอกที่เหลือในแผงเดิม

 

 

                ตัวอย่างที่ 3: ลืมรับประทาน “เม็ดที่ 23” และ “เม็ดที่ 24” ในเวลา 21.00 น. ของวันอังคารและวันพุธ ตามลำดับ แล้วมานึกขึ้นได้ในเวลา 21.00 น. ของวันพฤหัสบดี

                นับจากเวลาที่ลืมเม็ดแรก (21.00 น. วันอังคาร) ไปหาเวลาที่นึกได้ (21.00 น. วันพฤหัสบดี) จะเห็นได้ว่าห่างกัน 48 ชั่วโมง

                และเม็ดยาที่ลืมใช้ ไม่เพียงจะอยู่ในลำดับที่ 18 – 24 ของแผงเท่านั้น แต่ยังเป็น “เม็ดยาฮอร์โมน” 2 เม็ดสุดท้ายในแผงอีกด้วย

 

                เมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวัน และไม่มี “เม็ดยาฮอร์โมน” อื่น ๆ เหลืออีกแล้ว ก็ให้แกะทั้ง “เม็ดที่ 23” และ “เม็ดที่ 24” มารับประทานพร้อมกันนะคะ

                จากนั้นก็ต่อแผงใหม่ในวันถัดมา นั่นคือ ให้ข้ามการใช้ “เม็ดยาหลอก” ในลำดับที่ 25 – 28 ของแผงนี้ไปเลย

blank

 

 

                ทั้ง 3 ตัวอย่างที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่ามีการต่อแผงใหม่โดยข้ามการใช้ “เม็ดยาหลอก” ในแผงเดิมไปเลย ซึ่งก็หมายถึงในรอบนี้จะไม่มีช่วงปลอดฮอร์โมนนั่นเอง

                อย่างไรก็ตาม การลืมรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” เม็ดท้าย ๆ ของแผงต่อเนื่องกันหลายวัน อาจทำให้ผู้ใช้มีประจำเดือนมาก่อนเวลา

                หรือในทางกลับกัน หากประจำเดือนไม่ได้มาก่อนกำหนด การข้ามช่วงปลอดฮอร์โมนก็อาจทำให้ในรอบนี้ไม่มีประจำเดือนมาเลยก็ได้

                ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะหากไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนรอบหน้าก็จะมาตามปกติในช่วงที่รับประทาน “เม็ดยาหลอก” ของแผงใหม่ค่ะ

 

                และแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ก็ไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินนะคะ เนื่องจากการลืมรับประทานเกิดขึ้นหลังจากที่ใช้ยาคุมแผงนี้ติดต่อกันครบ 7 วันไปแล้ว จึงมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะมีไข่ตกในช่วงเวลาดังกล่าว

 

                แต่ต่อจากนี้ ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย ไปจนกว่าจะได้รับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของ “เฮอร์ซ” ติดต่อกันจนครบ 7 วันก่อน

                เช่น ถ้ากลับมาใช้ในวันพฤหัสบดี แล้วใช้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะครบ 7 วันเมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมในวันพฤหัสบดีถัดไป

 

                และถ้ายังลืมรับประทานยาคุมอยู่บ่อยครั้ง ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิด เช่น อาจเลือกการฉีดยาคุมกำเนิด, การฝังยาคุมกำเนิด หรือการใส่ห่วงอนามัย ซึ่งมีผลป้องกันนานกว่า แทนการรับประทานยาคุมรายเดือนค่ะ