ควรเริ่ม “สลินดา” แผงแรกเมื่อไหร่

ควรเริ่มสลินดาแผงแรกเมื่อไหร่

                การเริ่มใช้ยาคุม “สลินดา” (Slinda) แผงแรก สำหรับผู้หญิงทั่วไปที่ไม่ได้ใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนใด ๆ อยู่ ควรรอให้ประจำเดือนมาก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์นะคะ

                และหากรับประทานยาคุมเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยค่ะ

                แต่ถ้าเริ่มรับประทานในวันที่ 2 – 5 ของการมีประจำเดือน (นับวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1) ก็จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย ไปจนกว่าจะรับประทานยาคุมแผงนี้ติดต่อกันครบ 7 วันก่อน

 

                แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ เช่น…

  • นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมาในรอบล่าสุด มาจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลย
  • หรือ ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ โดยใช้อย่างถูกวิธี และตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน แล้วได้ผลตรวจเป็นลบ

               

                หากต้องการเริ่มใช้ “สลินดา” แผงแรกโดยไม่รอให้ประจำเดือนมาก่อน ก็สามารถทำได้ แต่…

  • จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย ไปจนกว่าจะรับประทานยาคุมแผงนี้ติดต่อกันครบ 7 วันก่อน
  • และ อาจทำให้ประจำเดือนที่กำลังจะมา ถูกเลื่อนออกไป โดยมาในช่วงที่รับประทาน “เม็ดยาหลอก” ของ “สลินดา” แทน

 

 

                สำหรับการใช้หลังแท้งบุตร และหลังคลอดบุตร หากเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวรุ่นก่อน ๆ ได้แก่ “เอ็กซ์ลูตอน” (Exluton), “เดลิต้อน” (Dailyton) และ “ซีราเซท” (Cerazette) สามารถเริ่มใช้ได้ทันทีนะคะ1, 2, 3

                ส่วนยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง “สลินดา” แม้ว่าในทางทฤษฎี น่าจะมีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากไม่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่ในทางปฏิบัติ ยังควรหลีกเลี่ยงการใช้ในกรณีที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันไปก่อน จนกว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าปลอดภัยเช่นเดี่ยวกับยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวตัวอื่น ๆ

                อ้างอิงจากเอกสารกำกับยา4 แนะนำให้เริ่มรับประทาน “สลินดา” ทันทีที่ยุติการตั้งครรภ์ไตรมาสแรก และถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลย จึงไม่ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วยค่ะ

                แต่ในกรณีที่แท้งในช่วงไตรมาสที่สอง รวมถึงการใช้หลังคลอดบุตร ให้เริ่มรับประทาน “สลินดา” ในระหว่างวันที่ 21 – 28 หลังแท้งบุตร หรือหลังคลอดบุตร และจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันที จึงไม่จำเป็นจะต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย

                หากเริ่มใช้ไม่ทันช่วงเวลาดังกล่าว ถ้ามั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ เช่น ยังไม่มีเพศสัมพันธ์เลยหลังแท้งบุตร / คลอดบุตร ก็สามารถเริ่มใช้ “สลินดา” ได้โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน แต่จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย ไปจนกว่าจะรับประทานยาคุมแผงแรกติดต่อกันครบ 7 วันก่อนนะคะ

 

 

                สำหรับผู้ที่คุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนอยู่แล้ว แต่ต้องการเปลี่ยนไปใช้ “สลินดา” มีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ

  1. การเปลี่ยนจากฮอร์โมนรวมไปเป็น “สลินดา”

                ผู้ที่รับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม เมื่อรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” เม็ดสุดท้ายในแผงไปแล้ว ก็ให้เริ่มใช้ “สลินดา” ในวันถัดมา (โดยไม่ต้องรับประทาน “เม็ดยาหลอก” ในแผงยาคุมแบบ 28 เม็ด หรือไม่ต้องเว้นว่าง 7 วันถ้าใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ด)

                ส่วนผู้ที่ใช้วงแหวนคุมกำเนิด (ซึ่งปัจจุบัน ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว) หรือใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด ให้เริ่มรับประทาน “สลินดา” ในวันที่ถอดวงแหวนคุมกำเนิด หรือดึงแผ่นแปะคุมกำเนิดออก

                และถือว่ามีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องกัน จึงสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ

                จากตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้น การเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดโดยข้ามช่วงปลอดฮอร์โมนไปเลย ก็อาจทำในรอบนี้ไม่มีประจำเดือนมานะคะ

 

                หรือจะรอให้ผ่านช่วงปลอดฮอร์โมนของวิธีคุมกำเนิดเดิมไปก่อน แล้วจึงเริ่มรับประทาน “สลินดา” ในวันที่ครบกำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ หรือตามกำหนดที่ต้องใช้วงแหวนคุมกำเนิดหรือแผ่นแปะคุมกำเนิดรอบใหม่ ก็ได้เช่นกัน

                ในกรณีนี้จะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติในช่วงปลอดฮอร์โมนนั่นเองค่ะ

                แต่จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย ไปจนกว่าจะรับประทาน “สลินดา” แผงแรกติดต่อกันครบ 7 วันก่อนนะคะ

 

  1. การเปลี่ยนจากฮอร์โมนเดี่ยวไปเป็น “สลินดา”

                ผู้ที่รับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวอยู่แล้ว ได้แก่ “เอ็กซ์ลูตอน”, “เดลิต้อน” หรือ “ซีราเซท” จะใช้ยี่ห้อเดิมไปจนหมดแผงก่อน หรือจะเปลี่ยนยาคุมทันทีที่ต้องการก็ได้ค่ะ

                แต่หลังจากที่หยุดใช้แผงเดิม จะต้องเริ่มรับประทาน “สลินดา” แผงแรกภายใน 24 ชั่วโมงถัดมา

                เช่น ถ้ารับประทาน “เอ็กซ์ลูตอน” ครั้งล่าสุด ในวันพุธ เวลา 21.00 น. แม้ว่าจะยังใช้ไม่หมดแผง แต่เมื่อไม่ต้องการจะใช้ยี่ห้อเดิมต่อแล้ว ก็ให้เริ่มรับประทานเม็ดแรกของ “สลินดา” ในวันพฤหัสบดี เวลา 21.00 น. ได้เลย

                สำหรับผู้ที่ฝังยาคุมกำเนิด หรือใส่ห่วงอนามัยชนิดเคลือบฮอร์โมน ให้เริ่มรับประทาน “สลินดา” ในวันเดียวกับที่ถอดยาฝังคุมกำเนิดหรือห่วงอนามัยนั้นออกนะคะ

                ส่วนผู้ที่ฉีดยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ให้เริ่มรับประทาน “สลินดา” ในวันที่ครบกำหนดฉีดยาคุมเข็มต่อไป

                การเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดที่ใช้ติดต่อกันโดยไม่มีช่วงปลอดฮอร์โมน จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องกันค่ะ

 

 

                แต่เอกสารกำกับยา ไม่ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดจากยาฉีดชนิดฮอร์โมนรวม ไปเป็น “สลินดา” ในกรณีนี้ อาจพิจารณาโดยยึดหลักการเดียวกับยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมอื่น ๆ นะคะ

                เนื่องจากการฉีดยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม จะมีกำหนดฉีดยาคุมซ้ำทุก ๆ 28 วัน และมักจะมีประจำเดือนมาในสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงกำหนดฉีดยาคุมเข็มใหม่ ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นช่วงปลอดฮอร์โมนเช่นกัน (แต่อาจกำหนดวันเวลาที่แน่นอนได้ยาก และไม่ชัดเจนเหมือนกับวิธีคุมกำเนิดฮอร์โมนรวมอื่น ๆ)

                ดังนั้น เมื่อเริ่มรับประทาน “สลินดา” ในวันที่ครบกำหนดฉีดยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมเข็มต่อไป ก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไปอีก 7 วันค่ะ

 

 

เอกสารอ้างอิง

  1. Selected Practice Recommendations for Contraceptive Use, 3rd edition. Geneva: World Health Organization; 2016.
  2. U.S. selected practice recommendations for contraceptive use, 2016.
  3. FSRH Guideline Contraception after Pregnancy, 2017.
  4. เอกสารกำกับยาภาษาอังกฤษ – Slinda®