“พรีม 28” (Preme 28) เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ด ซึ่ง 21 เม็ดแรกที่มีสีชมพูคือเม็ดยาฮอร์โมน โดยมีตัวยาฮอร์โมนเอสโตรเจน Ethinyl estradiol อยู่เม็ดละ 0.035 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนโปรเจสติน Cyproterone acetate อีกเม็ดละ 2 มิลลิกรัม
ส่วน 7 เม็ดสุดท้ายที่มีสีขาวคือเม็ดยาหลอก หรืออาจเรียกว่าเม็ดแป้ง เนื่องจากไม่ได้มีตัวยาสำคัญใด ๆ
ในแผงของ “พรีม 28 ” จะระบุ “ตัวเลขลำดับการใช้” ไว้จาก 1 ถึง 28 โดยให้เริ่มรับประทานจากเม็ดยาหมายเลข 1 แล้วใช้ต่อตามลำดับ วันละเม็ด ไปเรื่อย ๆ จนถึงเม็ดยาหมายเลข 28 เมื่อหมดแผงแล้วก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย
ผู้ใช้จึงได้รับฮอร์โมนติดต่อกันในช่วง 21 วันแรก และมีช่วงปลอดฮอร์โมน ใน 7 วันสุดท้ายของแผง
การรับประทาน “พรีม 28” ย้อนศร หรือใช้เม็ดยาผิดตำแหน่ง หากเป็นกรณีที่เม็ดยาหลอกถูกนำมาใช้แทนเม็ดยาฮอร์โมน (ใช้เม็ดยาสีขาวแทนเม็ดยาสีชมพู) จะลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด จึงต้องแก้ไขด้วยการรับประทานเม็ดยาฮอร์โมน (เม็ดยาสีชมพู) ทดแทนที่ขาดไป ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ถ้าใช้เม็ดยาฮอร์โมนสลับตำแหน่งกันเอง หรือใช้เม็ดยาหลอกสลับกันเอง (ใช้เม็ดยาสีชมพูแทนเม็ดยาสีชมพู หรือใช้เม็ดยาสีขาวแทนเม็ดยาสีขาว) ก็ไม่มีปัญหา เพราะประสิทธิภาพไม่ต่างไปจากเดิม จึงไม่ต้องแกะเม็ดยาในตำแหน่งที่ถูกต้องมารับประทานซ้ำอีก
- ตัวอย่างที่ 1 : ใช้ผิดทั้งตำแหน่งและสี
ถ้าเผลอรับประทานย้อนศร โดยใช้ “เม็ดที่ 28” (เม็ดสีขาว ซึ่งเป็นเม็ดยาหลอก) แทน “เม็ดที่ 1” (เม็ดสีชมพู ซึ่งเป็นเม็ดยาฮอร์โมน)
จะทำให้ไม่ได้รับฮอร์โมน ในช่วงเวลาที่ควรได้รับฮอร์โมน ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
จึงควรแก้ไขด้วยการรับประทานเม็ดที่ถูกต้องทันที หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เช่น ถ้ารู้ตัวก่อนที่จะถึงเวลารับประทานยาคุมเม็ดถัดไป ก็ให้แกะ “เม็ดที่ 1” มารับประทานในตอนนั้นเลย แล้วรอรับประทาน “เม็ดที่ 2” ตามเวลาปกติ
หรือถ้ารู้ตัวเมื่อถึงเวลารับประทานยาคุม “เม็ดที่ 2” แล้ว ให้แกะทั้ง “เม็ดที่ 1” และ “เม็ดที่ 2” มารับประทานพร้อมกัน (แต่การรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนพร้อมกัน 2 เม็ดเช่นนี้ อาจทำให้คลื่นไส้/อาเจียน ปวดหรือเวียนศีรษะมากขึ้นนะคะ)
ในกรณีที่เป็นการใช้ต่อเนื่อง โดยต่อยาคุมแผงนี้ตามกำหนด หากแกะเม็ดแรกมาใช้ผิด แล้วแก้ไขได้ทันภายในวันเดียวกัน หรือแก้ไขเมื่อถึงเวลารับประทานยาของวันถัดมา ก็ถือว่ายังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง (ตามแนวทางพิจารณาเมื่อต่อยาคุม “พรีม 28” แผงใหม่ช้า)
แต่ในกรณีของยาคุมแผงแรก ซึ่งควรเริ่มใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หากใช้ผิดแล้วทำให้ได้เริ่มใช้เม็ดยาฮอร์โมนช้าเกินกำหนด ก็จะต้องรอให้รับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันจนครบ 7 วันก่อน จึงจะเริ่มคุมกำเนิดได้
หลังจากที่แก้ไขแล้ว ก็รับประทานต่อวันละเม็ดตามลำดับไปเรื่อย ๆ
เมื่อถึงวันที่จะต้องใช้ “เม็ดที่ 28” แต่ไม่มีเม็ดยาอยู่ในแผง ก็เว้นว่างในวันนี้ไปเลย แล้วรอเริ่มแผงใหม่ในวันถัดมา
การแก้ไขตามคำแนะนำข้างต้น จะทำให้การใช้ยาคุมแผงนี้มีช่วงปลอดฮอร์โมนครบ 7 วันเหมือนเดิม และเมื่อต่อยาคุมแผงใหม่ตรงตามกำหนดก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องตามปกติ
อีกทั้งวันที่เริ่มใช้เม็ดแรกของแผงใหม่ ก็จะตรงกับวันเดียวกันกับแผงเดิม ๆ เช่น ถ้าเคยใช้เม็ดแรกของแผงในวันพุธ ก็จะได้เริ่มเม็ดแรกของแผงใหม่ตรงกับวันพุธนั่นเอง
แต่ถ้ากลัวจะสับสนหากต้องเว้นว่างดังกล่าว หลังใช้ยาคุมแผงเดิมหมดแล้วก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ได้เลยนะคะ เพราะแม้จะมีช่วงปลอดฮอร์โมนไม่ครบ 7 วัน ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องเช่นกัน
เพียงแต่วันที่เริ่มใช้ยาคุมเม็ดแรกของแผงนี้และแผงต่อ ๆ ไป จะเลื่อนเร็วขึ้นมา 1 วัน เช่น ถ้าเคยใช้เม็ดแรกของแผงในวันพุธ หากแผงล่าสุดใช้ไปเพียง 27 วัน (เพราะวันแรกรับประทานไป 2 เม็ด ทำให้เหลือใช้ต่อวันละเม็ดอีก 26 วัน) เมื่อต่อแผงใหม่เลย ก็จะทำให้วันที่รับประทานเม็ดแรกของแผงใหม่ตรงกับวันอังคารค่ะ
- ตัวอย่างที่ 2 : ใช้ผิดตำแหน่ง แต่สีเดียวกัน
เมื่อผู้ใช้รับประทานยาคุม “พรีม 28” จาก “เม็ดที่ 1” ไปจนถึง “เม็ดที่ 7” แล้ว เม็ดยาที่จะต้องแกะมาใช้ต่อในลำดับถัดไป ก็ควรจะเป็น “เม็ดที่ 8”
แต่ถ้าแกะเม็ดยามาใช้ผิดตำแหน่ง โดยแกะ “เม็ดที่ 14” มาใช้แทน “เม็ดที่ 8” ก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากเม็ดยาทั้งสองมีสีเดียวกัน โดยเป็นเม็ดยาฮอร์โมนเหมือนกัน จึงไม่ต้องแกะเม็ดยาในตำแหน่งที่ถูกต้องมารับประทานซ้ำอีก
หลักสำคัญของการใช้ยาคุม “พรีม 28” ก็คือ จะต้องรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันให้ครบ 21 วันก่อน แล้วตามด้วยการรับประทานเม็ดยาหลอกอีก 7 วัน ดังนั้น แม้จะสลับตำแหน่ง แต่ถ้ายังคงได้ใช้เม็ดสีชมพูใน 21 วันแรก แล้วตามด้วยเม็ดสีขาวใน 7 วันสุดท้าย ก็ถือว่าตรงตามหลักการดังกล่าวนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ลูกศรและตัวเลขลำดับที่ระบุไว้ในแผงยา จะช่วยให้ตรวจสอบได้ง่าย และลดความสับสนที่เสี่ยงต่อการรับประทานผิด ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ ก็ควรใช้ให้ถูกต้องตามลำดับ
การแก้ไขสามารถทำได้หลายวิธีค่ะ ตัวอย่างแรกก็คือ ให้รับประทานเม็ดที่เหลือในแถวนี้ไปตามลูกศร นั่นคือ รับประทาน “เม็ดที่ 8 – 13” วันละเม็ด โดยถือเป็นลำดับที่ 9 – 14 ของแผง
จากนั้นจึงรับประทานเม็ดที่ 15 – 28 ต่อตามลำดับที่ถูกต้อง
หรือใช้ย้อนศรต่อไปจนหมดแถวนี้ โดยรับประทานเรียงจาก “เม็ดที่ 13” ไปหา “เม็ดที่ 8”
จากนั้นจึงรับประทานเม็ดที่ 15 – 28 ต่อตามลำดับที่ถูกต้อง
แม้วิธีนี้จะทำได้ง่ายกว่าวิธีแรก แต่ควรระวังว่าการเรียงลำดับเม็ดยาในแถวที่สองแบบย้อนศร อาจทำให้สับสนและเสี่ยงที่จะรับประทานผิดนะคะ
และอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ไล่ลำดับเม็ดยาในแถวเทียบกับวันในสัปดาห์อยู่เสมอ สมมติว่าเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ในวันพุธ เมื่อไล่ลำดับตามลูกศร เม็ดแรกของแต่ละแถว ซึ่งก็คือ 1, 8, 15 และ 22 ก็จะตรงกับวันพุธด้วยเช่นกัน
หากเผลอรับประทาน “เม็ดที่ 14” ในวันพุธ ก็ไม่เป็นไร ถือว่ามีการใช้ยาคุมในวันพุธไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องแกะ “เม็ดที่ 8” มารับประทานซ้ำอีก
แต่เพื่อให้สอดคล้องกับการไล่ลำดับซึ่งจะง่ายต่อการตรวจสอบประจำวัน ในวันพฤหัสบดี – ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ – จันทร์ ให้แกะ “เม็ดที่ 9 – 10 – 11 – 12 – 13” มาใช้ตามลำดับ
และเมื่อถึงวันอังคารที่ควรจะต้องใช้ “เม็ดที่ 14” แต่ไม่มีเม็ดยาอยู่ในแผง เนื่องจากถูกแกะไปใช้แล้วในวันพุธที่ผ่านมา ก็ให้แกะ “เม็ดที่ 8” ที่ยังเหลือตกค้างอยู่ในแผง มารับประทานแทนได้เลย
จากนั้นก็ใช้ “เม็ดที่ 15 – 28” ต่อวันละเม็ดไปตามปกติ
จะเห็นว่ามีแนวทางแก้ไขได้หลายวิธี ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวก
และเช่นเดียวกัน ในกรณีที่ใช้ย้อนศร โดยการสลับเม็ดยาหลอกกับเม็ดยาหลอก (ยกตัวอย่างเช่น เผลอใช้ “เม็ดที่ 28” แทน “เม็ดที่ 22” ซึ่งเป็นเม็ดสีขาวทั้งคู่) ก็สามารถแก้ไขตามแนวทางข้างต้นได้เช่นกันค่ะ