โรคตาแดง (Pink eye) หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่าโรคเยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis) เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ซึ่งการติดเชื้อไวรัส, การติดเชื้อแบคทีเรีย และภูมิแพ้ เป็นสาเหตุหลักที่พบได้บ่อย
โรคตาแดงจากไวรัส (Viral conjunctivitis) ติดต่อกันได้ง่ายและรวดเร็ว จึงมักพบการระบาดในชุมชน โดยเฉพาะในเดือนสิงหาคม – กันยายน ซึ่งเป็นช่วงปลายของฤดูฝนนะคะ
แต่อาจเพราะเดือนก่อนมีพายุหลายลูกแวะเวียนมาทักทาย ส่งผลให้มีฝนตกยาว ไปจนถึงมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ ในช่วงนี้ ร้านยาของดิฉันจึงมีลูกค้าที่มาพร้อมกับดวงตาสีชมพูฟรุ้งฟริ้งหลายราย
จุดเด่นของโรคตาแดงจากไวรัส ได้แก่…
- ตาแดง, เคืองตา, น้ำตาไหล
- ไม่มีขี้ตา หรือมีขี้ตาเป็นเมือกใสเล็กน้อย
- ตาบวม/ปวดตาเล็กน้อย
- เป็นข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ โดยอาจเป็นข้างใดข้างหนึ่งก่อนแล้วลามไปอีกข้าง ซึ่งข้างที่เป็นทีหลังมักจะมีอาการน้อยกว่าเพราะร่างกายมีภูมิต้านทานไว้ก่อนแล้ว
- อาจพบอาการบวมและเจ็บของต่อมน้ำเหลืองบริเวณหน้าใบหู
- บางราย โดยเฉพาะในเด็ก อาจมีไข้, เจ็บคอ, และคอหอยอักเสบร่วมด้วย
โรคตาแดงจากไวรัส สามารถติดต่อกันได้จากการสัมผัสโดยตรงกับน้ำตาหรือขี้ตาของผู้ป่วย และการไอจามรดกันในบางกรณี (เช่น ผู้ที่มีอาการหวัดร่วมด้วย) รวมไปถึงการสัมผัสทางอ้อม ผ่านของที่ใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า, ผ้าเช็ดตัว, เสื้อผ้า, หมอน, เครื่องสำอาง เป็นต้น
เพื่อลดการระบาดของโรค ควรแยกผู้ป่วย โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้ที่ต้องพบกับคนจำนวนมาก เช่น ให้หยุดเรียนหรือหยุดงานไปก่อน
และป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ โดยการไม่สัมผัสบริเวณดวงตาหรือขยี้ตา, ไม่ไอจามใส่ผู้อื่น, หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในสระหรือแหล่งน้ำต่าง ๆ, ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ
โรคตาแดงจากไวรัสยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ และสามารถหายเองได้ภายใน 2 สัปดาห์ค่ะ จึงให้การรักษาไปตามอาการ เช่น ให้ยาหยอดตาแก้แพ้และหดหลอดเลือด หยอดตาข้างที่มีอาการครั้งละ 1 – 2 หยด วันละ 4 ครั้ง เพื่อบรรเทาอาการเคืองตา
ตัวอย่างของยาหยอดตาแก้แพ้และหดหลอดเลือด
- สูตรผสมของยาแก้แพ้ Antazoline hydrochloride และยาหดหลอดเลือด Tetrahydrozoline hydrochloride
- Hista-oph
- Opsa-his
- Antazallerge
- Allergis
- Spers
- Opsil-A
- Miilioph
- สูตรผสมของยาแก้แพ้ Pheniramine maleate และยาหดหลอดเลือด Naphazoline hydrochloride
- Naphcon-A
หรืออาจใช้น้ำตาเทียม (โดยเลือกชนิดที่ไม่มีสารกันเสีย) เพื่อบรรเทาอาการเคืองตาดังกล่าวก็ได้นะคะ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหยอดตาประเภทสเตียรอยด์ (ยกเว้นในกรณีที่แพทย์สั่ง) เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
หากมีอาการปวดตา ก็สามารถรับประทานยาบรรเทาอาการปวดได้ และอาจใช้การประคบเย็นเพื่อให้รู้สึกสบายตามากขึ้น
นอกจากนี้ก็ควรพักผ่อนและพักการใช้สายตา ไม่ขยี้ตา รวมถึง งดใส่คอนแทคเลนส์ไปก่อน
ยังไม่จำเป็นจะต้องใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับโรคตาแดงจากไวรัส ยกเว้นว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนจึงค่อยพิจารณาการให้ยาเพิ่มเติมค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากรู้สึกปวดตามาก, ตาสู้แสงไม่ได้, มองภาพไม่ชัดเจนตลอดเวลา หรือในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้นภายใน 7 – 10 วัน ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาเพิ่มเติมนะคะ