ยาคุม “คลาเรนซ์” (Clarenz)

เริ่มเผยแพร่

ปรับปรุงล่าสุด

                ยาคุมยี่ห้อนี้มีอยู่ 2 รูปแบบค่ะ ได้แก่ “คลาเรนซ์” (Clarenz) ซึ่งเป็นยาคุมแบบ 21 เม็ด กับ “คลาเรนซ์ 28” (Clarenz 28) ซึ่งเป็นยาคุมแบบ 28 เม็ด

ยาคุมยี่ห้อนี้มี 2 รูปแบบ ก็คือ "คลาเรนซ์" ที่มี 21 เม็ด และ "คลาเรนซ์ 28" ที่มี 28 เม็ด

 

                สำหรับ “คลาเรนซ์” ที่เป็นยาคุมแบบ 21 เม็ด แต่ละเม็ดจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจน คือ Ethinyl estradiol 0.020 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนโปรเจสติน คือ Gestodene อีก 0.075 มิลลิกรัม เหมือนกันทั้งหมด

ในแผงของ "คลาเรนซ์" มีเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด ไม่มีเม็ดยาหลอก

 

                “คลาเรนซ์” จัดเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ประเภทฮอร์โมนต่ำมาก (Ultra low dose pills) เนื่องจากมีปริมาณ Ethinyl estradiol ไม่เกินเม็ดละ 0.020 มิลลิกรัม ดังนั้น ผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น อาการคลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, บวมน้ำ หรือการเกิดฝ้า จะพบได้น้อยมาก

                แต่ก็อาจพบปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอยได้นะคะ โดยเฉพาะถ้ารับประทานไม่ตรงเวลาสม่ำเสมอ

 

                แม้ว่าฤทธิ์แอนโดรเจนของ Gestodene จะยังสูงอยู่เมื่อเทียบกับโปรเจสตินรุ่นที่ 3 ตัวอื่น ๆ แต่เมื่อใช้ในขนาดต่ำ ผลข้างเคียงจากฮอร์โมนโปรเจสติน เช่น สิว, หน้ามัน หรือขนดก จึงพบได้น้อย 

                และแม้ว่า Gestodene จะมีผล Antimineralocorticoid เมื่อศึกษาในสัตว์ทดลอง แต่ในมนุษย์กลับพบผลดังกล่าวน้อยมากหรือไม่มีเลย “คลาเรนซ์” จึงไม่ถือเป็นยาคุมที่มีผลต้านการบวมน้ำ

 

                ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือมีค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index; BMI) ตั้งแต่ 25 กิโลกรัมต่อตารางเมตรขึ้นไป ก็สามารถใช้ “คลาเรนซ์” ได้ เนื่องจากหลักฐานส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า ปัจจัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิด เหมือนที่เคยกังวลกันในอดีต หากรับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ

 

                อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่อยู่ในเกณฑ์อ้วนมาก หรือมีค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index; BMI) ตั้งแต่ 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรขึ้นไป การใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม มีความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (Venous thromboembolism; VTE) ได้มากกว่าผู้ที่ไม่ใช้ยาคุม

                ดังนั้น แม้จะไม่ห้ามใช้ หากไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันร่วมด้วย แต่เพื่อความปลอดภัย ก็ควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เช่น เลือกสูตรยาคุมที่เหมาะสม หรืออาจพิจารณาทางเลือกอื่นแทนการใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม โดยเฉพาะผู้ที่มีค่า BMI > 35 kg/m2

 

                ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมที่ตัวยาโปรเจสตินเป็น Gestodene อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดได้มากกว่า Levonorgestrel, Norethisterone หรือ Norgestimate

                แต่ถ้าเปรียบเทียบยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมที่มีโปรเจสตินตัวเดียวกัน สูตรที่ใช้ Ethinyl estradiol น้อยกว่า ก็มีแนวโน้มว่าความเสี่ยงจะต่ำกว่าค่ะ

                ดังนั้น “คลาเรนซ์” ซึ่งมี Ethinyl estradiol 0.02 มิลลิกรัม อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ยาคุมฮอร์โมนรวมที่มี Ethinyl estradiol และ Gestodene (หรือ ยาคุมสูตร EE/GSD) เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว

 

                แต่ผู้ที่มีโรคประจำตัว, ผู้ที่สูบบุหรี่และมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป, ผู้ที่ต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากการคุมกำเนิด และผู้ที่รับประทานยาหรือสมุนไพรใด ๆ อยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้นะคะ

                เพราะแม้จะมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำมาก แต่หากใช้อย่างไม่เหมาะสมก็อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำ, เนื้องอกหรือมะเร็งบางชนิดที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศ หรือการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมอง/โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้

                และการใช้ร่วมกับยาหรือสมุนไพรบางอย่าง ก็อาจลดประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์

 

                “คลาเรนซ์” เป็นยาคุมสูตรเดียวกับ “เมลลิแอน” (Meliane) ผลิตและจัดจำหน่ายโดย บริษัทไทยนครพัฒนา จำกัด (Thai Nakorn Patana co.ltd) ราคาประมาณ 130 – 150 บาท แต่ปัจจุบันไม่มีจำหน่ายแล้ว โดยถูกยกเลิกทะเบียนตำรับยาเมื่อ 16 สิงหาคม 2566 เนื่องจากไม่มีการผลิต 2 ปีติดต่อกัน (2564 – 2565) ค่ะ 

ยาคุมคลาเรนซ์

 

 

เอกสารอ้างอิง

  1. FSRH Guideline: Combined Hormonal Contraception. Faculty of Sexual & Reproductive Healthcare, January 2019. (Amended October 2023)
  2. FSRH Guideline: Overweight, Obesity & Contraception. Faculty of Sexual & Reproductive Healthcare, April 2019.
  3. U.S. Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use. Centers for Disease Control and Prevention, 2016.
  4. Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use, 5th edition. World Health Organization, 2015.
  5. ระบบตรวจสอบการอนุญาต – กระทรวงสาธารณสุข