สำหรับผู้ที่ใช้ยาคุมรายเดือนอยู่แล้ว ถ้ายังไม่ถึงเวลารับประทานประจำวัน สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ไหม จำเป็นจะต้องเปลี่ยนเวลามารับประทานยาคุมให้เร็วขึ้นหรือเปล่า
อาจเพราะยาคุมรายเดือนถูกแนะนำให้รับประทานในเวลาก่อนเข้านอน และโดยทั่วไป การมีเพศสัมพันธ์ก็มักจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น จึงอาจทำให้ผู้ใช้บางคนเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า ต้องใช้ยาคุมก่อนมีอะไรกัน เพื่อให้มีผลป้องกันจากยาคุมซะก่อน
แท้จริงแล้ว ไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัวว่าจะต้องรับประทานยาคุมรายเดือนก่อนนอนหรอกนะคะ หากผู้ใช้สะดวกในเวลาอื่นมากกว่า ก็สามารถเลือกรับประทานตามเวลานั้นได้
เหตุผลหลักที่แนะนำให้ใช้ยาคุมในเวลาก่อนนอน ก็เพื่อลดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังใช้ยา โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ ที่เริ่มใช้ เพราะเมื่อหลับแล้วก็จะไม่รู้สึกอะไร จึงช่วยป้องกันปัญหาเลิกคุมกำเนิดกลางคัน เนื่องจากทนผลข้างเคียงไม่ได้
อีกทั้งยังลดความเสี่ยงที่จะลืมรับประทาน เพราะเมื่อถึงเวลาเข้านอนและอาจมีเพศสัมพันธ์ตามมา จะเป็นการเตือนความจำว่า ต้องรับประทานยาคุมเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ
กลไกที่ยาคุมรายเดือนใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะโดยยับยั้งการตกไข่, การทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้นเพื่อขัดขวางการเคลื่อนผ่านของอสุจิ หรือการเปลี่ยนสภาพเยื่อบุโพรงมดลูกให้ไม่พร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรับประทานยาคุมต่อเนื่องตรงเวลาสม่ำเสมอ
ดังนั้น หากเริ่มรับประทานแผงนั้นอย่างถูกต้อง เช่น เริ่มยาคุมแผงแรกภายใน 1 – 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ซึ่งจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดทันที หรือต่อแผงใหม่ตามกำหนด ซึ่งจะถือว่าสามารถคุมได้ต่อเนื่องทุกวัน
รวมถึง การใช้ต่อเนื่องมาระยะหนึ่งจนมีป้องกันจากยาคุมแล้ว เช่น แม้จะเริ่มแผงแรกไม่ทัน 1 – 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หรือแม้จะต่อแผงใหม่ช้าเกินกำหนดไปมาก แต่ก็ได้รับประทานยาคุมแผงนั้นต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง (ซึ่งอาจเป็น 2 วัน, 7 วัน หรือ 9 วัน ขึ้นกับยาคุมที่ใช้) จนมีผลป้องกันได้แล้ว
ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ว่าจะก่อนเวลารับประทานยาคุมในวันนั้น ๆ หรือหลังจากที่รับประทานยาคุมตามเวลาปกติแล้ว
ไม่จำเป็นจะต้องปรับเวลารับประทานให้เร็วขึ้น แต่ควรใช้ยาคุมให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์นะคะ