ลืมรับประทาน “โลล่า” ต่อเนื่องกันตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป โดยเวลาที่ลืมเม็ดแรกกับเวลาที่นึกได้ ห่างกันอย่างน้อย 48 ชั่วโมง และเม็ดใดเม็ดหนึ่งหรือทั้งหมด อยู่ในสัปดาห์สุดท้ายของแผง
นับจากเม็ดแรกที่เริ่มรับประทาน เม็ดยาที่ 15 – 21 ตามลำดับการใช้ จะถือว่าเป็นช่วงสัปดาห์ที่สาม หรือสัปดาห์สุดท้ายของแผงนั่นเองค่ะ
เช่น ถ้าเริ่มใช้ยาคุมแผงนี้ในวันพุธ ก็จะนับว่า “เม็ดวันพุธ” นี้ เป็นเม็ดยาลำดับที่ 1
เมื่อลืมรับประทาน “เม็ดวันอังคาร” และ “เม็ดวันพุธ” ซึ่งเป็นเม็ดที่ 14 และ 15 ตามลำดับ ในเวลา 21.00 น. ของแต่ละวัน แล้วนึกได้ในเวลา 21.00 น. ของวันพฤหัสบดี
นับจากเวลาที่ลืมเม็ดแรก (21.00 น. วันอังคาร) ไปหาเวลาที่นึกได้ (21.00 น. วันพฤหัสบดี) จะห่างกัน 48 ชั่วโมงพอดี โดยเม็ดยาที่ลืม (เม็ดใดเม็ดหนึ่งหรือทั้งหมด) อยู่ในสัปดาห์สุดท้ายของแผง
เมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันแล้ว ก็ให้แกะ “เม็ดวันพุธ” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ลืมล่าสุด” และ “เม็ดวันพฤหัส” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” มารับประทานพร้อมกันในเวลา 21.00 น.
ส่วน “เม็ดวันอังคาร” ซึ่งเป็นอีกเม็ดที่ลืมรับประทาน ให้ทิ้งไปได้เลย (หรือจะเก็บไว้เป็นเม็ดยาสำรองเผื่อจำเป็นต้องใช้ก็ได้ หากไม่กังวลว่าอาจสับสนและใช้ผิด)
จากนั้น ให้รับประทานต่อวันละเม็ดตามลำดับ แต่เมื่อหมดแผงแล้วก็ให้ต่อยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมา โดยไม่ต้องเว้นว่าง 7 วันก่อนนะคะ
แต่ถ้าลืมใช้ 2 เม็ดสุดท้ายของแผง แล้วนึกได้ในเวลา 21.00 น. ของวันถัดมา
เช่น ถ้าเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ในวันพุธ สองเม็ดสุดท้ายของแผงก็จะเป็น “เม็ดวันจันทร์” และ “เม็ดวันอังคาร” หากลืมใช้ในเวลา 21.00 น. ของวันจันทร์และอังคาร ติดต่อกัน 2 วัน แล้วนึกได้เมื่อถึงเวลา 21.00 น. ของวันพุธ
เมื่อนับจากเวลาที่ลืมเม็ดแรก (21.00 น. วันจันทร์) ไปหาเวลาที่นึกได้ (21.00 น. วันพุธ) จะห่างกัน 48 ชั่วโมงพอดี ซึ่งเม็ดยาที่ลืม ไม่เพียงอยู่ในสัปดาห์สุดท้ายของแผงเท่านั้น แต่ยังเป็นสองเม็ดสุดท้ายของแผงอีกด้วย
ถ้ายังไม่ได้ซื้อยาคุมแผงใหม่ ก็ให้แกะทั้งสองเม็ดนั้นมารับประทานพร้อมกันในเวลา 21.00 น. ได้เลย จากนั้นก็ให้ต่อยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมา โดยไม่ต้องเว้นว่าง 7 วันก่อน
ซึ่งการแก้ไขตามนี้ จะทำให้วันที่เริ่มใช้ยาคุมแผงใหม่ตรงกับวันพฤหัสบดี แทนที่จะเป็นวันพุธเหมือนแผงเดิม
แต่ถ้าซื้อยาคุมแผงใหม่มาแล้ว ก็ให้แกะ “เม็ดวันอังคาร” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ลืมล่าสุด” มารับประทานพร้อมกับ “เม็ดวันพุธ” ในแผงใหม่
ส่วน “เม็ดวันจันทร์” ในแผงเดิม ซึ่งเป็นอีกเม็ดที่ลืมใช้ ก็ให้ทิ้งไปได้เลย
จากนั้นก็ใช้ยาคุมแผงใหม่ต่อวันละเม็ดตามปกติ
การแก้ไขตามนี้ จะทำให้วันที่เริ่มใช้ยาคุมแผงใหม่ตรงกับวันพุธเหมือนแผงเดิมค่ะ
หรือในกรณีที่ลืมมากกว่า 48 ชั่วโมง เช่น ลืมรับประทาน “เม็ดวันอังคาร”, “เม็ดวันพุธ” และ “เม็ดวันพฤหัส” ซึ่งเป็นเม็ดที่ 14, 15 และ 16 ตามลำดับ ในเวลา 21.00 น. ของแต่ละวัน แล้วนึกได้ในเวลา 08.00 น. ของวันศุกร์
เมื่อนับจากเวลาที่ลืมเม็ดแรก (21.00 น. วันอังคาร) ไปหาเวลาที่นึกได้ (08.00 น. วันศุกร์) จะเห็นว่าห่างกันมากกว่า 48 ชั่วโมง โดยเม็ดยาที่ลืม (เม็ดใดเม็ดหนึ่งหรือทั้งหมด) อยู่ในสัปดาห์สุดท้ายของแผง
เมื่อยังไม่ถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวัน ก็ให้แกะ “เม็ดวันพฤหัส” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ลืมล่าสุด” มารับประทานทันที ในเวลา 08.00 น. ของวันศุกร์
แล้วรอใช้ “เม็ดวันศุกร์” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” ในเวลา 21.00 น.
ส่วน “เม็ดวันอังคาร” และ “เม็ดวันพุธ” ที่ลืมรับประทาน ให้ทิ้งไปได้เลย
จากนั้นก็ให้รับประทานต่อวันละเม็ดตามลำดับ แต่เมื่อหมดแผงแล้วก็ให้ต่อยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมา โดยไม่ต้องเว้นว่าง 7 วันก่อน
การลืมรับประทานยาคุมหลายวันในช่วงสัปดาห์สุดท้าย อาจส่งผลให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอยและประจำเดือนไม่ปกติ เช่น อาจมีประจำเดือนมาก่อนเวลาที่คาดไว้
หรือในทางกลับกัน การที่ต้องต่อแผงใหม่โดยไม่ต้องเว้นว่างก่อน ก็อาจทำให้ในรอบนี้ไม่มีประจำเดือนมาเลยก็ได้
ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะเมื่อใช้ยาคุมแผงใหม่อย่างเหมาะสมและไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็จะมาตามปกติ ในช่วงที่เว้นว่าง 7 วันก่อนต่อยาคุมแผงถัดไปนั่นเอง
แต่เมื่อลืมรับประทาน “โลล่า” ตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึ้นไป ก็ถือว่าไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้วนะคะ จึงควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย จนกว่าจะรับประทานยาคุม “โลล่า” ติดต่อกันครบ 7 วันก่อน
เช่น ถ้ากลับมารับประทานต่อในวันศุกร์ และใช้ต่อเนื่องกันไปทุกวัน ก็จะครบ 7 วันเมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมในวันศุกร์ถัดไป
ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยในช่วงที่ผ่านมา ไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉิน เนื่องจากมีการใช้ยาคุมติดต่อกันมานานก่อนที่จะลืมรับประทาน จึงมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะมีไข่ตกในช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากยังลืมรับประทานยาคุมอยู่บ่อยครั้ง ก็เสี่ยงที่จะป้องกันล้มเหลวแล้วเกิดการตั้งครรภ์ จึงควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีผลป้องกันได้นาน โดยไม่ต้องบริหารยาบ่อย ๆ เช่น การฉีดยาคุมกำเนิด, การฝังยาคุมกำเนิด หรือการใส่ห่วงอนามัย แทนการใช้ยาคุมรายเดือนค่ะ
