ลืมรับประทาน “เมอซิลอน” ต่อเนื่องกันตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป โดยเวลาที่ลืมเม็ดแรก กับเวลาที่กลับมารับประทานต่อ ห่างกันอย่างน้อย 48 ชั่วโมง และเม็ดใดเม็ดหนึ่งหรือทั้งหมด อยู่ในช่วงสัปดาห์แรกของแผง
นับจากเม็ดแรกที่เริ่มรับประทาน (ซึ่งอาจต่างกันไปในผู้ใช้ “เมอซิลอน” แต่ละราย ขึ้นกับว่าเริ่มใช้ยาคุมตรงกับวันใดในสัปดาห์) ไปหาเม็ดที่ 7 ตามลำดับดังกล่าว จะถือว่าเป็นช่วงสัปดาห์แรกของแผงค่ะ
จากภาพตัวอย่าง ถ้าเริ่มใช้ยาคุมแผงนี้ในวันพุธ ก็จะนับว่า “เม็ดวันพุธ” นี้ เป็นเม็ดที่ 1 ของแผงนะคะ
เมื่อลืมรับประทาน “เม็ดวันเสาร์” และ “เม็ดวันอาทิตย์” ซึ่งเป็นเม็ดที่ 4 และ 5 ของแผง ในเวลา 21.00 น. ของแต่ละวัน แล้วนึกได้ในเวลา 21.00 น. ของวันจันทร์ ก็ให้แกะ “เม็ดวันอาทิตย์” ซึ่งเป็น “เม็ดล่าสุดที่ลืม” มารับประทานพร้อมกับ “เม็ดวันจันทร์” ในเวลา 21.00 น.
ส่วน “เม็ดวันเสาร์” ซึ่งเป็นอีกเม็ดที่ลืมรับประทาน ให้ทิ้งไปได้เลย (หรือจะเก็บไว้เป็นเม็ดยาสำรองเผื่อจำเป็นต้องใช้ก็ได้ หากไม่กังวลว่าอาจสับสนและใช้ผิด)
ในเวลา 21.00 น. ของวันอังคารและวันถัด ๆ ไป ก็ให้รับประทานต่อวันละเม็ด ตามลำดับ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดแผง
เนื่องจากยังใช้ยาคุมแผงนี้ติดต่อกันไม่ครบ 7 วัน การลืมรับประทานดังกล่าวจึงทำให้เสี่ยงที่จะยับยั้งการตกไข่ในรอบนี้ไม่ทัน ดังนั้น หากช่วงที่ผ่านมามีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ด้วยนะคะ
และนับจากนี้ จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือถ้าจะมีก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย ไปจนกว่าจะได้รับประทาน “เมอซิลอน” ติดต่อกันจนครบ 7 วันค่ะ
ซึ่งจากตัวอย่างข้างต้น ถ้าเริ่มกลับมารับประทานต่อในวันจันทร์ และใช้ต่อเนื่องกันไปทุกวัน ก็จะถือว่าได้ใช้ติดต่อกันครบ 7 วันเมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมในวันจันทร์ถัดไป
เมื่อรับประทานยาคุมแผงนี้ไปจนหมดแล้ว ก็ให้เว้นว่าง 7 วันก่อนต่อยาคุมแผงใหม่นะคะ
นอกจากจะส่งผลกระทบถึงประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดแล้ว การรับประทานยาคุมไม่ตรงเวลา โดยเฉพาะยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนต่ำมากอย่าง “เมอซิลอน” อาจทำให้เกิดปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้น ต่อไปจึงควรเพิ่มความระมัดระวังและรับประทานยาคุมให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ
ซึ่งในกรณีที่ยังพบปัญหาเดิมอยู่ซ้ำ ๆ การใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีผลป้องกันนานขึ้นโดยไม่ต้องบริหารยาบ่อย ๆ เช่น การฉีดยาคุมกำเนิด, การฝังยาคุมกำเนิด และการใส่ห่วงอนามัย อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า จึงควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมค่ะ