ลืมรับประทานยาคุม “ไมโครเลนิน 30 ท.ว.” ต่อเนื่องกัน 3 เม็ด หรือมากกว่า ตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป และเม็ดยาที่ลืม อยู่ในแถวที่ 3 หรือ 3+4
ตัวอย่างที่ 1: ลืมรับประทาน “เม็ดที่ 19”, “เม็ดที่ 20” และ “เม็ดที่ 21” ในเวลา 21.00 น. ของวันจันทร์, วันอังคาร และวันพุธ ติดต่อกัน 3 วัน แล้วนึกได้ในเวลา 21.00 น. ของวันพฤหัสบดี
จะเห็นได้มีการขาดยาต่อเนื่องกัน 72 ชั่วโมงพอดี และเม็ดยาที่ลืมใช้ก็อยู่ในแถวที่ 3 ของแผง
ให้แก้ไขโดยแกะ “เม็ดที่ 19” ซึ่งเป็น “เม็ดแรกที่ลืม” มารับประทานพร้อมกับ “เม็ดที่ 20” ซึ่งเป็น “เม็ดถัดไป” ในเวลา 21.00 น. ของวันพฤหัสบดี
จากนั้นก็รับประทานเม็ดยาสีเหลืองในแผงต่อตามลำดับวันละเม็ด ในเวลา 21.00 น. ไปเรื่อย ๆ ตามปกติ
แต่เมื่อเม็ดยาสีเหลืองในแผงหมดแล้ว ให้ทิ้งยาคุมแผงนี้ และเริ่มแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย
ตัวอย่างที่ 2: ลืมรับประทาน “เม็ดที่ 19”, “เม็ดที่ 20”, “เม็ดที่ 21” และ “เม็ดที่ 22” ในเวลา 21.00 น. ของวันจันทร์, วันอังคาร, วันพุธ และวันพฤหัสบดี ติดต่อกัน 4 วัน แล้วนึกได้ในเวลา 08.00 น. ของวันศุกร์
จะเห็นได้มีการขาดยาต่อเนื่องกันมากกว่า 72 ชั่วโมง และเม็ดยาที่ลืมใช้ก็อยู่ในแถวที่ 3+4 ของแผง
ให้แกะ “เม็ดที่ 19” ซึ่งเป็น “เม็ดแรกที่ลืม” มารับประทานในเวลา 08.00 น. ของวันศุกร์
แล้วรอรับประทาน “เม็ดที่ 20” ซึ่งเป็น “เม็ดถัดไป” ในเวลา 21.00 น. ของวันศุกร์
จากนั้นก็รับประทานเม็ดยาสีเหลืองในแผงต่อตามลำดับวันละเม็ด ในเวลา 21.00 น. ไปเรื่อย ๆ ตามปกติ
แต่เมื่อเม็ดยาสีเหลืองในแผงหมดแล้ว ก็ให้ทิ้งยาคุมแผงนี้ และเริ่มรับประทานยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมา
จากตัวอย่างที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่ามีการแนะนำให้ต่อแผงใหม่โดยข้ามการใช้ “เม็ดยาหลอก” (เม็ดยาสีขาว) ในแผงนี้ไปเลย ซึ่งก็หมายถึงในรอบนี้จะไม่มีช่วงปลอดฮอร์โมนนะคะ
อย่างไรก็ตาม การลืมรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ต่อเนื่องกันหลายวัน อาจทำให้ผู้ใช้มีประจำเดือนมาก่อนเวลา หรือในทางกลับกัน หากประจำเดือนไม่ได้มาก่อนกำหนด การข้ามช่วงปลอดฮอร์โมนก็อาจทำให้ในรอบนี้ไม่มีประจำเดือนมาเลยก็ได้ ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะหากรับประทานยาคุมแผงใหม่อย่างเหมาะสมและไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็จะมาตามปกติในช่วงที่รับประทาน “เม็ดยาหลอก” ของแผงใหม่นั่นเอง
เมื่อลืมรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของ “ไมโครเลนิน 30 ท.ว.” ต่อเนื่องกัน 3 เม็ดหรือมากกว่า โดยขาดยาติดต่อกันตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป ก็จะถือว่าไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้ว จึงควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือต้องป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ไปจนกว่าจะมีการใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันจนครบ 7 วันอีกครั้ง
เช่น ถ้ากลับมารับประทานยาคุมในวันศุกร์ และใช้ต่อเนื่องกันทุกวัน ก็จะถือว่าครบ 7 วันเมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันในวันศุกร์ถัดมานั่นเอง
ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยในช่วงที่ผ่านมา ไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรอง เพราะว่าก่อนที่จะลืมรับประทาน ได้มีการใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วันแล้ว จึงถือว่ามีผลยับยั้งไข่ตกจากยาคุมรายเดือนอยู่
แต่ถ้ายังมีปัญหาลืมรับประทานยาคุมอยู่บ่อยครั้ง ก็เสี่ยงที่จะล้มเหลวในการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยวิธีนี้ ดังนั้น การปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีผลป้องกันได้นาน เช่น ฉีดยาคุม, ฝังยาคุม หรือใส่ห่วงอนามัย ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ