กินยาคุมก่อนเวลาได้ไหม

                ผู้ใช้ยาคุมรายเดือน จะได้รับคำแนะนำให้รับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากความแปรปรวนของฮอร์โมน

                แต่ถ้ามีวันใดวันหนึ่ง ไม่สะดวกที่จะใช้ในเวลาเดิม สามารถรับประทานก่อนเวลาได้หรือไม่ จะยังคงให้ผลคุมกำเนิดหรือเปล่า และมีข้อควรระวังอย่างไร

 

                การรับประทานที่ตรงเวลาสม่ำเสมอ จะทำให้ยาคุมรายเดือนสามารถออกฤทธิ์คุมกำเนิดได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการรับประทานยาคุมที่ตรงเวลาสม่ำเสมอก็คือ ควรรับประทานแต่ละเม็ดห่างกันทุก 24 ชั่วโมงค่ะ

                และเนื่องจาก อาจพบอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้ โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ ที่เริ่มใช้ เพื่อลดผลข้างเคียงนี้ อีกทั้งเพื่อลดความเสี่ยงที่จะลืมรับประทาน จึงแนะนำให้ รับประทานยาคุมในเวลาก่อนนอน หรือใกล้เคียงเวลานอน โดยผู้ใช้สะดวกที่จะรับประทานในเวลาเดิมทุก ๆ วัน นะคะ

 

                การรับประทานผิดเวลา หากทำให้เวลาที่รับประทานยาคุมแต่ละเม็ดห่างกันเกินไป ระดับฮอร์โมนที่มีในร่างกายก็อาจลดต่ำลงมากจนไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่ะ

                และแม้ว่าการรับประทานก่อนเวลา จะทำให้เวลาที่รับประทานในครั้งนี้กับครั้งก่อน ห่างกันน้อยกว่า 24 ชั่วโมง แต่เมื่อกลับมารับประทานต่อตามเวลาเดิมในครั้งต่อไป เวลาที่ใช้ก็จะห่างกันมากกว่า 24 ชั่วโมง

 

                ยกตัวอย่างเช่น เวลารับประทานยาคุมประจำวัน คือ 21.00 น. แต่วันจันทร์และวันอังคารมีการรับประทานในเวลา 19.00 น. หลังจากนั้นก็กลับมารับประทานต่อตามเวลาเดิม คือ 21.00 น.

                ระยะห่างของเวลาที่ใช้ยาคุม ก็จะเป็นดังภาพ

ระยะห่างของเวลาที่รับประทานยาคุม

                นั่นคือ นับจากเวลาที่รับประทานยาคุมในวันอาทิตย์ไปหาวันจันทร์ จะห่างกัน 22 ชั่วโมง, จากวันจันทร์ไปหาวันอังคาร ห่างกัน 24 ชั่วโมง และจากวันอังคารไปหาวันพุธ ก็จะห่างกัน 26 ชั่วโมง

 

                หากเวลาที่ได้รับยาคุมแต่ละเม็ดห่างกันมากเกินไป ก็จะถือว่ามีการใช้ไม่ต่อเนื่อง และต้องพิจารณาวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่นเดียวกับกรณีที่ลืมรับประทานยาคุมนั่นเอง

                โดยยาคุมรายเดือนมีหลากหลายชนิดและรูปแบบ เช่น ยาคุมแบบ 21 เม็ด ที่มีเฉพาะเม็ดยาฮอร์โมน และยาคุมแบบ 28 เม็ด ที่บางยี่ห้อจะมีเฉพาะเม็ดยาฮอร์โมน แต่บางยี่ห้อก็มีทั้งเม็ดยาฮอร์โมนและเม็ดยาหลอกอยู่ในแผง

                ซึ่งการนับระยะห่างจะเน้นระหว่าง “เม็ดยาฮอร์โมน” เม็ดหนึ่งไปหาอีกเม็ดหนึ่ง และยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว จะมีกรอบเวลายืดหยุ่นสั้นกว่ายาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ดังนี้ค่ะ

ชนิดของยาคุมรายเดือน

ข้อควรระวัง

ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยวชนิดตัวยาไลเนสทรีนอล (Lynestrenol) ซึ่งไม่มีเม็ดยาหลอกอยู่ในแผง ได้แก่ “เอ็กซ์ลูตอน” (Exluton) และ “เดลิต้อน” (Dailyton)

รับประทานช้ากว่าเวลาที่กำหนดได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมง

 

นั่นคือ นับจากเวลาที่รับประทานเม็ดก่อน มาถึงเวลาที่รับประทานเม็ดนี้ ต้องห่างกันไม่เกิน 27 ชั่วโมง

ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยวชนิดตัวยาดีโซเจสตริล (Desogestrel) ซึ่งไม่มีเม็ดยาหลอกอยู่ในแผง ได้แก่ “ซีราเซท” (Cerazette)

รับประทานช้ากว่าเวลาที่กำหนดได้ไม่เกิน 12 ชั่วโมง

 

นั่นคือ นับจากเวลาที่รับประทานเม็ดก่อน มาถึงเวลาที่รับประทานเม็ดนี้ ต้องห่างกันไม่เกิน 36 ชั่วโมง

ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยวชนิดตัวยาดรอสไพรีโนน (Drospirenone) ซึ่งมีทั้งเม็ดยาฮอร์โมนและเม็ดยาหลอกอยู่ในแผง ได้แก่ “สลินดา” (Slinda)

รับประทานช้ากว่าเวลาที่กำหนดได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง

 

นั่นคือ นับจากเวลาที่รับประทานเม็ดก่อน มาถึงเวลาที่รับประทานเม็ดนี้ ต้องห่างกันไม่เกิน 48 ชั่วโมง

ยาคุมฮอร์โมนรวมที่มีฮอร์โมนระดับเดียว

ซึ่งก็คือยาคุมส่วนใหญ่ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน

รับประทานช้ากว่าเวลาที่กำหนดได้ไม่ถึง 48 ชั่วโมง

 

นั่นคือ นับจากเวลาที่รับประทานเม็ดก่อน มาถึงเวลาที่รับประทานเม็ดนี้ ต้องห่างกันน้อยกว่า 72 ชั่วโมง

ยาคุมฮอร์โมนรวมที่มีฮอร์โมนหลายระดับ ได้แก่ “ไคลรา” (Qlaira)

รับประทานช้ากว่าเวลาที่กำหนดได้ไม่เกิน 12 ชั่วโมง

 

นั่นคือ นับจากเวลาที่รับประทานเม็ดก่อน มาถึงเวลาที่รับประทานเม็ดนี้ ต้องห่างกันไม่เกิน 36 ชั่วโมง

 

                ในกรณีของยาคุมฮอร์โมนรวมที่มีฮอร์โมนระดับเดียว ที่กำหนดกรอบเวลายืดหยุ่นไว้ที่ ไม่ถึง 48 ชั่วโมงนับจากเวลาที่ควรรับประทานเม็ดนั้น หรือเท่ากับ ไม่ถึง 72 ชั่วโมงนับจากเวลาที่รับประทานเม็ดล่าสุดไปแล้ว เป็นการอ้างอิงตามแนวทางของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (CDC) และคณะอนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาวะทางเพศ สหราชอาณาจักร (FSRH) นะคะ

                แต่หากอ้างอิงตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO) จะใช้กรอบเวลาดังกล่าวกับยาคุมฮอร์โมนรวมที่มีปริมาณเอสโตรเจน Ethinyl estradiol ไม่เกิน 0.020 มิลลิกรัม ส่วนยาคุมฮอร์โมนรวมที่มีปริมาณเอสโตรเจน Ethinyl estradiol มากกว่า 0.020 มิลลิกรัม แต่ไม่ถึง 0.050 มิลลิกรัม สามารถปรับกรอบเวลายืดหยุ่นไปเป็น ไม่ถึง 72 ชั่วโมงนับจากเวลาที่ควรรับประทานเม็ดนั้น แทนได้ค่ะ

 

                สรุปก็คือ หากมีความจำเป็นก็สามารถรับประทานยาคุมก่อนเวลาที่เคยใช้ได้นะคะ และยังคงให้ผลคุมกำเนิดอยู่ แต่ควรระวังว่าเมื่อกลับมารับประทานต่อตามเวลาเดิม จะทำให้เวลาที่ใช้เม็ดยาฮอร์โมนแต่ละเม็ดนั้นห่างกันมากเกินไปด้วยหรือไม่

                ในกรณีที่ระยะห่างระหว่างเม็ดยาฮอร์โมนนานเกินไป (โดยพิจารณาจากกรอบเวลายืดหยุ่นของยาคุมรายเดือนแต่ละชนิด) ก็จะถือว่ามีการใช้ไม่ต่อเนื่อง และควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วยตามแนวทางแก้ไขเมื่อลืมรับประทานยาคุมค่ะ

 

 

 

เอกสารอ้างอิง

  1. FSRH CEU Guidance: Recommended Actions after Incorrect Use of Combined Hormonal Contraception. Faculty of Sexual & Reproductive Healthcare, 2020.
  2. FSRH CEU Guidance: Progestogen-only Pills, 2015. (Updated April 2019)
  3. S. Selected Practice Recommendations for Contraceptive Use. Centers for Disease Control and Prevention, 2016.
  4. Selected Practice Recommendationsfor Contraceptive Use, 3rd edition. World Health Organization, 2016.
  5. เอกสารกำกับยา Slinda®
  6. เอกสารกำกับยา Qlaira®