ในครั้งก่อน ได้กล่าวถึงแนวทางการใช้และข้อควรระวัง เปรียบเทียบกันระหว่างยาน้ำสูตรผสมสำหรับบรรเทาอาการจากไข้หวัด 2 ยี่ห้อ ในบทความเรื่อง “ทิฟฟี่ เดย์ ไซรัป” กับ “ซาร่า โคลด์ พีแอล” ไปแล้ว
ครั้งนี้ เรามาลองเปรียบเทียบแนวทางการใช้และข้อควรระวัง ระหว่างการใช้ยาน้ำเพื่อบรรเทาอาการไข้ ปวดศีรษะ คัดจมูก จาม และมีน้ำมูก ในขวดเดียว กับการแยกเป็นบรรเทาอาการไข้ ปวดศีรษะ 1 ขวด และบรรเทาอาการคัดจมูก จาม มีน้ำมูก อีก 1 ขวดกันบ้างนะคะ
โดยจะยกตัวอย่างยาที่ผลิตจากบริษัทเดียวกันทั้งหมด เนื่องจากใช้มาตรฐานเดียวกันในการคัดเลือกวัตถุดิบ, การผลิต และการตั้งราคา เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนค่ะ
ยี่ห้อและราคาโดยประมาณ |
ปริมาณตัวยาสำคัญใน 1 ช้อนชา |
||
พาราเซตามอล |
คลอร์เฟนิรามีน |
ฟีนิลเอฟรีน |
|
ทิฟฟี่ เดย์ ไซรัป 40 – 50 บาท |
120 มิลลิกรัม |
1 มิลลิกรัม |
5 มิลลิกรัม |
ซาร่า โคลด์ พีแอล 50 – 60 บาท |
160 มิลลิกรัม |
1 มิลลิกรัม |
5 มิลลิกรัม |
ซาร่า สตรอเบอรี่ ขวดสีชมพู 45 – 55 บาท |
120 มิลลิกรัม |
– |
– |
ซาร่า องุ่น ขวดสีม่วง 55 – 65 บาท |
160 มิลลิกรัม |
– |
– |
นาโซลิน พีแอล ไซรัป 40 – 50 บาท |
– |
2 มิลลิกรัม |
5 มิลลิกรัม |
ซึ่งถ้าใช้กรณีสมมติเดียวกันบทความก่อน คือ เด็กอายุ 3 ปี น้ำหนัก 15 กิโลกรัม ขนาดการใช้และปริมาณยาที่ได้รับ จะเป็นดังนี้
ยี่ห้อและขนาดรับประทาน |
ปริมาณยาที่ได้รับ |
||
พาราเซตามอล ควรได้รับ ครั้งละ 150 – 225 มิลลิกรัม |
คลอร์เฟนิรามีน ควรได้รับ ครั้งละ 1 มิลลิกรัม หรือวันละ 5.25 มิลลิกรัม |
ฟีนิลเอฟรีน ควรได้รับ ครั้งละ 2.5 มิลลิกรัม หรือวันละ 15 มิลลิกรัม |
|
ทิฟฟี่ เดย์ ไซรัป 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร) |
120 มิลลิกรัม |
1 มิลลิกรัม |
5 มิลลิกรัม |
ซาร่า โคลด์ พีแอล 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร) |
160 มิลลิกรัม |
1 มิลลิกรัม |
5 มิลลิกรัม |
ซาร่า สตรอเบอรี่ ขวดสีชมพู 1 ช้อนชาครึ่ง (7.5 มิลลิลิตร) |
180 มิลลิกรัม |
– |
– |
ซาร่า องุ่น ขวดสีม่วง 1 ช้อนชา (5 มิลลิลิตร) |
160 มิลลิกรัม |
– |
– |
นาโซลิน พีแอล ไซรัป ครึ่งช้อนชา (2.5 มิลลิลิตร) |
– |
1 มิลลิกรัม |
2.5 มิลลิกรัม |
จากตัวอย่าง ขนาดการใช้ ทิฟฟี่ เดย์ ไซรัป (Tiffy dey Syrup) จะต้องเป็นครั้งละ 1 ช้อนชา และจำกัดให้ใช้ไม่เกินวันละ 3 ครั้ง เพื่อที่จะไม่ได้รับ ฟีนิลเอฟรีน มากเกินไป อย่างไรก็ตาม ปริมาณของพาราเซตามอลก็จะน้อยกว่าขนาดที่ควรได้รับตามน้ำหนัก จึงอาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการลดไข้และบรรเทาอาการปวด
ส่วนการใช้ ซาร่า โคลด์ พีแอล (Sara cold PL) ถูกจำกัดตามขนาดของ ฟีนิลเอฟรีน ให้รับประทานครั้งละ 1 ช้อนชา และใช้ไม่เกินวันละ 3 ครั้งเช่นกัน แต่ปริมาณตัวยาสำคัญที่ได้รับทั้ง 3 ชนิด ถือว่าอยู่ในช่วงที่แนะนำให้ใช้นะคะ
อย่างไรก็ตาม สำหรับช่วงอายุนี้ การได้รับ ฟีนิลเอฟรีน ครั้งละ 2.5 มิลลิกรัม จะมีความเหมาะสมกว่า เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากยา ซึ่งหากรับประทาน นาโซลิน พีแอล ไซรัป (Nasolin P.L. Syrup) ครั้งละครึ่งช้อนชา ก็จะได้รับ คลอร์เฟนิรามีน และ ฟีนิลเอฟรีน ตรงตามขนาดที่แนะนำพอดีค่ะ โดยสามารถรับประทานซ้ำได้ทุก 4 – 6 ชั่วโมงเพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก จาม และมีน้ำมูก
แต่เนื่องจากไม่มีส่วนประกอบของ พาราเซตามอล นาโซลิน พีแอล ไซรัป จึงไม่สามารถลดไข้และบรรเทาอาการปวดได้เหมือนกับ ทิฟฟี่ เดย์ ไซรัป หรือ ซาร่า โคลด์ พีแอล ดังนั้น หากมีไข้หรืออาการปวดศีรษะร่วมด้วย ก็ต้องรับประทาน พาราเซตามอล เพิ่มอีก โดยปริมาณยาที่ควรได้รับตามน้ำหนัก ก็คือ ครั้งละ 150 – 225 มิลลิกรัม ซ้ำได้ทุก 4 – 6 ชั่วโมง แต่ไม่ควรเกินวันละ 5 ครั้ง
จึงอาจใช้ ซาร่า สตรอเบอรี่ ขวดสีชมพู (Sara 120 mg/5 ml) ครั้งละ 1 ช้อนชาครึ่ง เพื่อให้ได้รับ พาราเซตามอล 180 มิลลิกรัม หรือจะใช้ ซาร่า องุ่น ขวดสีม่วง (Sara 160 mg/5 ml) ครั้งละ 1 ช้อนชา เพื่อให้ได้รับพาราเซตามอล 160 มิลลิกรัม ก็ได้นะคะ
แม้จะมีความยุ่งยากกว่า เนื่องจากต้องรับประทานยาหลายรายการ แต่ก็ทำให้ได้รับยาในปริมาณที่เหมาะสม และยังสามารถเลือกใช้ให้ตรงกับอาการที่มีอยู่ได้ เช่น หากมีทั้งไข้และน้ำมูก ก็ใช้ ซาร่า สตรอเบอรี่ หรือ ซาร่า องุ่น อย่างใดอย่างหนึ่ง ร่วมกับ นาโซลิน พีแอล ไซรัป แต่ถ้าอาการใดอาการหนึ่งหายแล้ว ก็หยุดยาที่รักษาอาการนั้นได้เลยค่ะ
ยาน้ำสูตรผสม แม้จะสะดวกในการใช้ เพราะรับประทานยาเพียงขนานเดียวก็ครอบคลุมหลายอาการป่วย แต่ในทางกลับกัน ก็อาจเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการใช้ยาเกินความจำเป็น ในกรณีที่อาการบางอย่างหายดีแล้ว แต่ยังต้องใช้ยาสูตรผสมตัวเดิมสำหรับบรรเทาอาการอื่นที่เหลืออยู่
อีกทั้งยาน้ำสูตรผสม ยังมีความยุ่งยากในการปรับขนาดยาให้เหมาะสม เนื่องจากมีสัดส่วนตายตัว การลดหรือเพิ่มขนาดรับประทาน เพื่อให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมของยาชนิดหนึ่ง อาจทำให้ได้รับยาอีกชนิดน้อยเกินไป จนไม่มีประสิทธิภาพในการรักษา หรือหากมากเกินไป ก็จะเพิ่มผลข้างเคียงหรือพิษจากยาชนิดนั้น
หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาน้ำสูตรผสม เช่น เด็กมีปัญหาป้อนยายาก ก็ควรใช้ให้ถูกต้องตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ ซึ่งขนาดที่คำนวณให้สำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายอาจไม่ตรงกับขนาดการใช้ที่ระบุไว้ข้างกล่อง หากไม่มั่นใจหรือมีข้อสงสัย ก็ควรสอบถามขณะที่รับยานะคะ
แต่ถ้าสามารถแยกใช้ยาตามแต่ละอาการได้ แม้ว่าจะทำให้ยุ่งยาก และอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการใช้ยาในขนาดสูงหรือการได้รับยาเกินจำเป็นค่ะ