เมื่อรับประทาน “ไมโครไกนอน 30 ทว.” แผงเดิมหมดแล้วก็ให้ต่อแผงใหม่ในวันถัดมา แต่สิ่งที่ต่างไปจากยาคุมแบบ 28 เม็ดยี่ห้ออื่น ๆ ก็คือ ผู้ผลิตแนะนำให้เริ่มรับประทานเม็ดยาที่อยู่ในแถบสีแดงก่อนส่วนอื่น เพื่อให้ประจำเดือนของผู้ใช้มาไม่ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์
และเนื่องจากในแผงของ “ไมโครไกนอน 30 ทว.” มีการระบุ “ตัวย่อของวันในสัปดาห์” เอาไว้ จึงเลือกแกะเม็ดยามาใช้ให้ตรงวันได้เลย โดยเริ่มจากส่วนที่อยู่ในแถบสีแดงนั่นเองนะคะ
เม็ดยาวันจันทร์ – อังคาร – พุธ – พฤหัสบดี – ศุกร์ ที่อยู่ในแถบสีแดง จะเป็นเม็ดสีขาว ซึ่งเป็น “เม็ดยาหลอก” ส่วนเม็ดยาวันเสาร์ – อาทิตย์ ที่อยู่ในแถบสีแดง จะเป็นเม็ดสีเหลือง ซึ่งเป็น “เม็ดยาฮอร์โมน”
ดังนั้น ถ้าลืมต่อยาคุมแผงใหม่ โดยพลาดการใช้เม็ดสีขาวในวันจันทร์, วันอังคาร, วันพุธ, วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ ก็เพียงแค่พลาดการใช้ “เม็ดยาหลอก” จึงไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
แต่ถ้าลืมต่อยาคุมแผงใหม่ โดยพลาดการใช้เม็ดสีเหลืองในวันเสาร์หรืออาทิตย์ อาจลดประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์นะคะ เนื่องจากไม่ได้ใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ตรงเวลา
ซึ่งแนวทางขององค์การอนามัยโลก (Selected practice recommendations for contraceptive use – 3rd edition; 2016) แนะนำว่า ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมที่มีปริมาณ Ethinyl estradiol 0.030 – 0.035 มิลลิกรัม จะไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง หากรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ช้าเกินกำหนดตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป
สำหรับวิธีใช้ เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย จึงแนะนำไปในแนวทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการพลาด “เม็ดยาฮอร์โมน” หรือจะพลาด “เม็ดยาหลอก” นั่นคือ
หากนึกได้ก่อนถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวัน ให้แกะ “เม็ดล่าสุดที่ลืม” มารับประทานทันที แล้วรอรับประทาน “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” ตามเวลาปกติ
แต่ถ้านึกได้เมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันแล้ว ก็ให้แกะ “เม็ดที่ลืมล่าสุด” และ “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” มารับประทานพร้อมกันได้เลย
จากนั้นก็ใช้ต่อวันละเม็ดตามปกติไปจนหมดแผง
ส่วนการพิจารณาว่าจะมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหรือไม่ ให้ดูว่าพลาดการใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” (เม็ดสีเหลือง) ไปนานแค่ไหน โดยนับจากเวลาที่ควรใช้ ไปหาเวลาที่ได้รับจริง
หากพลาดการใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ไม่ถึง 72 ชั่วโมง ก็ถือว่ายังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องตามปกติ
แต่ถ้านานตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป ก็ถือว่าไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้ว จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย จนกว่าจะได้รับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันครบ 7 วัน และควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นอีกวิธีป้องกันสำรองหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันไปแล้ว
ตัวอย่างที่ 1: กำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ตรงกับวันอังคาร เวลา 21.00 น. แต่ลืมใช้ และนึกขึ้นได้ในวันศุกร์ เวลา 08.00 น.
ในกรณีนี้ ถือว่าพลาดการใช้ “เม็ดวันอังคาร”, “เม็ดวันพุธ” และ “เม็ดวันพฤหัสบดี” ในเวลา 21.00 น. ของแต่ละวัน
วิธีแก้ไขก็คือ ให้รับประทาน “เม็ดวันพฤหัสบดี” ในแถบสีแดง ซึ่งเป็น “เม็ดล่าสุดที่ลืมใช้” ทันทีที่นึกได้ แล้วรอรับประทาน “เม็ดวันศุกร์” ในแถบสีแดง เมื่อถึงเวลา 21.00 น. ของวันศุกร์
จากนั้นก็รับประทานต่อวันละเม็ดตามลำดับไปจนหมดแผง
แม้ว่าจะต่อยาคุมช้าไปหลายวัน แต่เนื่องจากเม็ดยาที่ลืมใช้เป็นเม็ดสีขาวทั้งหมด จึงไม่มีปัญหาค่ะ เพราะเป็นเพียง “เม็ดยาหลอก” เท่านั้น
หากใช้ยาคุมแผงเดิมจนถึง “เม็ดวันจันทร์” ในแถบสีแดง และต้องต่อด้วย “เม็ดวันอังคาร” ในแถบสีแดงของแผงนี้ นั่นหมายถึงจะได้รับ “เม็ดยาฮอร์โมน” เม็ดสุดท้ายของแผงเดิมในวันศุกร์ (ที่อยู่ก่อนถึงแถบสีแดง)
ช่วงปลอดฮอร์โมน 7 วันจึงเป็นเสาร์ – อาทิตย์ – จันทร์ – อังคาร – พุธ – พฤหัสบดี – ศุกร์ และต้องเริ่มรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของแผงใหม่ในวันเสาร์ถัดมา
ดังนั้น แม้จะลืมรับประทานเม็ดสีขาวในวันอังคาร – พุธ – พฤหัสบดี ตามตัวอย่างที่ 1 ก็ไม่มีปัญหานะคะ เพราะถือว่าเป็นช่วงปลอดฮอร์โมนอยู่แล้ว การเว้นว่างในวันดังกล่าวหรือรับประทาน “เม็ดยาหลอก” ก็ไม่แตกต่างกัน
เมื่อกลับมารับประทานต่อในวันศุกร์ และทันใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ในวันเสาร์ได้ตามที่ควรเป็น ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องตามปกติค่ะ
ตัวอย่างที่ 2: กำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ตรงกับวันศุกร์ เวลา 21.00 น. แต่ลืมใช้ และนึกขึ้นได้ในวันอาทิตย์ เวลา 21.00 น.
วิธีแก้ไขก็คือ ให้แกะ “เม็ดวันเสาร์” ในแถบสีแดง ซึ่งเป็น “เม็ดล่าสุดที่ลืมใช้” และ “เม็ดวันอาทิตย์” ในแถบสีแดง ซึ่งเป็น “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” มารับประทานพร้อมกันในเวลา 21.00 น. ของวันอาทิตย์
จากนั้นก็รับประทานต่อวันละเม็ดตามลำดับไปจนหมดแผง
เม็ดยาที่ลืมใช้ในกรณีนี้ ได้แก่ “เม็ดวันศุกร์” ในแถบสีแดง ซึ่งเป็นเม็ดสีขาว และ “เม็ดวันเสาร์” ในแถบสีแดง ซึ่งเป็นเม็ดสีเหลือง จึงถือว่าพลาดการใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ไป 1 เม็ดนะคะ
หากใช้ยาคุมแผงเดิมจนถึง “เม็ดวันพฤหัสบดี” ในแถบสีแดง และต้องต่อด้วย “เม็ดวันศุกร์” ในแถบสีแดงของแผงนี้ นั่นหมายถึงจะได้รับ “เม็ดยาฮอร์โมน” เม็ดสุดท้ายของแผงเดิมในวันศุกร์ (ที่อยู่ก่อนถึงแถบสีแดง)
ช่วงปลอดฮอร์โมน 7 วันจึงเป็นเสาร์ – อาทิตย์ – จันทร์ – อังคาร – พุธ – พฤหัสบดี – ศุกร์ และต้องเริ่มรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของแผงใหม่ในวันเสาร์ถัดมา
จากเวลาที่ควรได้รับ “เม็ดยาฮอร์โมน” ของแผงใหม่ในวันเสาร์ 21.00 น. ไปหาเวลาได้รับจริงในวันอาทิตย์ 21.00 น. จะเห็นได้ว่าห่างกัน 24 ชั่วโมง
ดังนั้น เมื่อรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ช้าเกินกำหนดไป แต่ยังไม่ถึง 72 ชั่วโมง ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องเช่นกันค่ะ
ตัวอย่างที่ 3: กำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ตรงกับวันเสาร์ เวลา 21.00 น. แต่ลืมใช้ และนึกขึ้นได้ในวันพุธ เวลา 08.00 น.
วิธีแก้ไขก็คือ ให้รับประทาน “เม็ดวันอังคาร” ที่ต่อจากแถบสีแดง ซึ่งเป็น “เม็ดล่าสุดที่ลืมใช้” ทันทีที่นึกได้ แล้วรอรับประทาน “เม็ดวันพุธ” ที่อยู่ถัดมา เมื่อถึงเวลา 21.00 น. ของวันพุธ
แม้ว่าจะมีคำแนะนำให้เริ่มใช้เม็ดยาในแถบสีแดงก่อนเสมอ แต่ในกรณีนี้ จะไม่ย้อนกลับไปใช้ “เม็ดวันอังคาร” ในแถบสีแดงก่อนนะคะ เพราะถือว่าผ่านช่วงปลอดฮอร์โมนมาแล้วจากแผงเดิม หากไปเริ่มที่เม็ดสีขาวอีก ก็จะมีช่วงปลอดฮอร์โมนนานเกินไป และไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่ะ
จากนั้นก็รับประทานต่อวันละเม็ดตามลำดับ แต่เพื่อป้องกันความสับสน แนะนำให้ใช้ไปจนถึง “เม็ดวันศุกร์” ในแถบสีแดง แล้วก็ทิ้งแผงนี้และต่อแผงใหม่ในวันถัดมา โดยเริ่มจาก “เม็ดวันเสาร์” ในแถบสีแดง
และเนื่องจากเม็ดยาที่ลืมใช้เป็นเม็ดสีเหลือง จึงต้องพิจารณาว่าได้รับ “เม็ดยาฮอร์โมน” ช้าเกินกำหนดตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไปหรือไม่
ซึ่งหากใช้ยาคุมแผงเดิมมาถึง “เม็ดวันศุกร์” ในแถบสีแดง และต้องต่อด้วย “เม็ดวันเสาร์” ในแถบสีแดงของแผงนี้ นั่นหมายถึงจะได้รับ “เม็ดยาฮอร์โมน” เม็ดสุดท้ายของแผงเดิมในวันศุกร์ (ที่อยู่ก่อนถึงแถบสีแดง)
ช่วงปลอดฮอร์โมน 7 วันจึงเป็นเสาร์ – อาทิตย์ – จันทร์ – อังคาร – พุธ – พฤหัสบดี – ศุกร์ และต้องเริ่มรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของแผงใหม่ในวันเสาร์ถัดมา
จากเวลาที่ควรได้รับ “เม็ดยาฮอร์โมน” ของแผงนี้ในวันเสาร์ 21.00 น. ไปหาเวลาได้รับจริงในวันพุธ 08.00 น. จะเห็นได้ว่าห่างกัน 84 ชั่วโมง
เมื่อรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ช้าเกินกำหนดตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป ก็ถือว่าไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้ว จึงควรงดมีเพศสัมพันธ์หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วยไปอีก 7 วัน
นั่นคือ ถ้าเริ่มรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของแผงนี้ในวันพุธ เมื่อรับประทานต่อตามลำดับไปเรื่อย ๆ ก็จะครบ 7 วันเมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมในวันพุธถัดไป
แต่ถ้าในช่วงที่ผ่านมา มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ก็ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
หากลืมใช้หรือลืมต่อยาคุมแผงใหม่อยู่เรื่อย ๆ ทำให้ได้รับฮอร์โมนไม่ตรงเวลา ก็เสี่ยงที่จะล้มเหลวในการป้องกันการตั้งครรภ์ การเปลี่ยนไปฉีดยาคุมกำเนิด, ฝังยาคุมกำเนิด หรือใส่ห่วงอนามัย ซึ่งมีผลป้องกันได้นานก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า จึงควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมนะคะ