ลืมกินยาคุม “ไมโครไกนอน 30 ทว.”

ลืมรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของ “ไมโครไกนอน 30 ทว.” ต่อเนื่องกัน 3 เม็ด หรือมากกว่า โดยนึกได้หลังจากลืมเม็ดแรกตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป

 

                ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเคยรับประทานยาคุมในเวลา 21.00 น. ของทุก ๆ วัน แต่ลืมและไม่ได้รับประทานในวันพุธ, พฤหัสบดี และศุกร์ แล้วมานึกได้ในเวลา 21.00 น. ของวันเสาร์

                จะเห็นได้ว่ามีการลืมรับประทานยาคุมติดต่อกัน 3 เม็ด

                โดยเมื่อนับจากเวลาที่ลืมรับประทานเม็ดแรก คือ เวลา 21.00 น. ของวันพุธ ไปหาเวลาที่นึกได้และกลับมาใช้ต่อ คือ 21.00 น. ของวันเสาร์ ก็จะห่างกัน 72 ชั่วโมง

                แต่ถ้านึกได้หรือแก้ไขหลังจากเวลานี้ ก็จะห่างกันมากกว่า 72 ชั่วโมง

                ซึ่งทั้ง 2 กรณี ถือว่าลืมรับประทานตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไปนะคะ

               

                เมื่อลืมรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ของ “ไมโครไกนอน 30 ทว.” ต่อเนื่องกัน 3 เม็ด หรือมากกว่า ตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป แนะนำดังนี้ค่ะ

                หากนึกขึ้นได้เมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันแล้ว ให้แกะ “เม็ดที่ลืมล่าสุด” มารับประทานพร้อมกับ “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” ได้เลย ซึ่งการรับประทานรวมกันเช่นนี้ อาจทำให้คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดหรือเวียนศีรษะมากขึ้น

                แต่หากนึกขึ้นได้ก่อนที่จะถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวัน ก็ให้แกะ “เม็ดที่ลืมล่าสุด” มารับประทานทันที แล้วรอรับประทาน “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” เมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวัน

 

                แต่เมื่อลืมใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ของ “ไมโครไกนอน 30 ทว.” ติดต่อกันตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไป ก็จะถือว่าไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้วนะคะ ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ จึงมีข้อแนะนำ 3 ข้อ ดังนี้

 

  1. งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย จนกว่าจะได้รับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันจนครบ 7 วัน

                เช่น ถ้ากลับมารับประทานยาคุมในวันเสาร์ และใช้ต่อเนื่องกันทุกวัน ก็จะถือว่าครบ 7 วันเมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันในวันเสาร์ถัดมานั่นเอง

 

  1. ในกรณีที่ลืมรับประทานในช่วงต้น ๆ ของแผง โดยใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” (เม็ดสีเหลือง) ติดต่อกันยังไม่ครบ 7 วัน และมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์

                แต่ถ้าได้มีการใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันมาไม่น้อยกว่า 7 วันแล้วก่อนที่จะลืมรับประทานยาคุม แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรอง เพราะถือว่าน่าจะมีผลยับยั้งไข่ตกจากยาคุมรายเดือนอยู่

 

  1. ในกรณีที่ลืมรับประทานในช่วงท้าย ๆ ของแผง โดยนับจากวันที่กลับมารับประทานต่อเป็นต้นไป เหลือ “เม็ดยาฮอร์โมน” (เม็ดสีเหลือง) ให้ใช้อีกไม่ถึง 7 วัน ก็ให้ข้ามการใช้ “เม็ดยาหลอก” ไปเลย

                นั่นคือ หลังจากที่รับประทาน “เม็ดวันศุกร์” ที่อยู่ก่อนถึงแถบสีแดง ซึ่งเป็น “เม็ดยาฮอร์โมน” เม็ดสุดท้ายไปในวันศุกร์ ก็ให้ทิ้งยาคุมแผงเดิมและต่อยาคุมแผงใหม่ในวันเสาร์ โดยเริ่มรับประทานจาก “เม็ดวันเสาร์” ในแถบสีแดง

                หรือแม้ว่าจะเหลือ “เม็ดยาฮอร์โมน” ให้ใช้ต่อตั้งแต่ 7 วันขึ้นไป แต่ถ้ามีประจำเดือนมาก่อนกำหนดไปแล้วจากการลืมรับประทานยาคุมต่อเนื่องกันหลายวัน ก็ควรต่อแผงใหม่โดยข้ามการใช้ “เม็ดยาหลอก” ไปเลยเช่นกันนะคะ

 

 

ตัวอย่างที่ 1: ลืมรับประทาน “เม็ดวันพุธ”, “เม็ดวันพฤหัส” และ “เม็ดวันศุกร์” ในเวลา 21.00 น. ของแต่ละวัน แล้วนึกได้ในเวลา 21.00 น. ของวันเสาร์

                นับจากเวลาที่ลืมเม็ดแรก (21.00 น. วันพุธ) ไปหาเวลาที่นึกได้ (21.00 น. วันเสาร์) จะเห็นว่ามีการขาดยา 72 ชั่วโมงพอดี ในกรณีนี้จึงไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้ว ต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย ไปจนกว่าจะรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันครบ 7 วันก่อน

                และนับจาก “เม็ดวันเสาร์” ในแถบสีแดง ซึ่งเป็นฮอร์โมนเม็ดแรกของแผง มาถึง “เม็ดวันอังคาร” ซึ่งรับประทานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะที่ลืมใช้ยาคุม จะเห็นได้ว่ามีการใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ในยาคุมแผงนี้ติดต่อกันยังไม่ครบ 7 วัน จึงมีความเสี่ยงที่จะยับยั้งการตกไข่ในรอบนี้ไม่ทันค่ะ ดังนั้น หากที่ผ่านมามีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ได้ใช้ถุงยางป้องกัน ก็จะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์

 

                สำหรับการใช้ยาคุมแผงนี้ต่อ เนื่องจากนึกได้เมื่อถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันเสาร์แล้ว จึงให้แกะ “เม็ดวันศุกร์” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ลืมล่าสุด” และ “เม็ดวันเสาร์” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” มารับประทานพร้อมกันในเวลา 21.00 น. ของวันเสาร์

                ส่วน “เม็ดวันพุธ” และ “เม็ดวันพฤหัส” ซึ่งลืมรับประทานเช่นกัน ให้แกะทิ้งไปได้เลย (หรือจะเก็บไว้เป็นเม็ดยาสำรองเผื่อจำเป็นต้องใช้ก็ได้ หากไม่กังวลว่าอาจสับสนและใช้ผิด)

                หลังจากนั้น ก็รับประทานต่อวันละเม็ดตามปกติ หมดแผงแล้วจึงค่อยต่อยาคุมแผงใหม่ โดยเลือกเม็ดยาในแถบสีแดงให้ตรงตามวันที่เริ่มใช้

 

 

ตัวอย่างที่ 2: ลืมรับประทาน “เม็ดวันอาทิตย์”, “เม็ดวันจันทร์”, “เม็ดวันอังคาร” และ “เม็ดวันพุธ” ในเวลา 21.00 น. ของแต่ละวัน แล้วนึกได้ในเวลา 08.00 น. ของวันพฤหัสบดี

                นับจากเวลาที่ลืมเม็ดแรก (21.00 น. วันอาทิตย์) ไปหาเวลาที่นึกได้ (08.00 น. วันพฤหัสบดี) จะเห็นว่ามีการขาดยามากกว่า 72 ชั่วโมง ในกรณีนี้จึงไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้ว ต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย ไปจนกว่าจะรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันครบ 7 วันก่อน

                แต่เมื่อนับจาก “เม็ดวันเสาร์” ในแถบสีแดง ซึ่งเป็นฮอร์โมนเม็ดแรกของแผง มาถึง “เม็ดวันเสาร์” ซึ่งรับประทานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะที่ลืมใช้ยาคุม จะเห็นได้ว่ามีการใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ในยาคุมแผงนี้ติดต่อกันครบ 7 วันแล้วนะคะ ดังนั้น แม้ที่ผ่านมามีเพศสัมพันธ์ไปโดยไม่ได้ใช้ถุงยางป้องกัน ก็ไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรอง

 

                สำหรับการใช้ยาคุมแผงนี้ต่อ เนื่องจากนึกได้ก่อนที่จะถึงเวลารับประทานยาคุมประจำวันพฤหัสบดี จึงให้แกะ “เม็ดวันพุธ” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ลืมล่าสุด” มารับประทานทันทีที่นึกได้ แล้วรอใช้ “เม็ดวันพฤหัส” ซึ่งเป็น “เม็ดที่ต้องใช้ประจำวัน” ในเวลา 21.00 น. ของวันพฤหัสบดี

                ส่วน “เม็ดวันอาทิตย์, “เม็ดวันจันทร์” และ “เม็ดวันอังคาร” ซึ่งลืมรับประทานเช่นกัน ให้แกะทิ้งไปได้เลย (หรือจะเก็บไว้เป็นเม็ดยาสำรองเผื่อจำเป็นต้องใช้ก็ได้ หากไม่กังวลว่าอาจสับสนและใช้ผิด)

 

                และเมื่อนับจากวันที่กลับมารับประทานต่อ ไปหาวันสุดท้ายของเม็ดยาฮอร์โมนในแผง จะเหลือ “เม็ดยาฮอร์โมน” ให้ใช้ต่อไม่น้อยกว่า 7 วัน ได้แก่วันพฤหัสบดี – ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ – จันทร์ – อังคาร – พุธ – พฤหัสบดี – ศุกร์ จึงสามารถใช้ต่อไปจนหมดแผง โดยไม่จำเป็นจะต้องข้าม “เม็ดยาหลอก”

                ดังนั้น หลังจากที่แก้ไขตามที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ก็ให้รับประทานต่อวันละเม็ดตามปกติ หมดแผงแล้วจึงค่อยต่อยาคุมแผงใหม่ โดยเลือกเม็ดยาในแถบสีแดงให้ตรงตามวันที่เริ่มใช้

blank

                แต่ถ้าการลืมรับประทานดังกล่าวทำให้มีประจำเดือนมาก่อนถึงแถบสีแดง ก็ให้ข้ามการใช้ “เม็ดยาหลอก” ในแผงนี้ไปเลย นั่นคือ เมื่อใช้ “เม็ดวันศุกร์” ก่อนถึงแถบสีแดง (ซึ่งเป็น “เม็ดฮอร์โมน” เม็ดสุดท้ายในแผง) ไปแล้ว ก็ให้ทิ้งแผงเดิม แล้วต่อยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมา โดยเริ่มจาก “เม็ดวันเสาร์” ในแถบสีแดง

 

 

ตัวอย่างที่ 3: ลืมรับประทาน “เม็ดวันพุธ”, “เม็ดวันพฤหัส” และ “เม็ดวันศุกร์” ในเวลา 21.00 น. ของแต่ละวัน แล้วนึกได้ในเวลา 21.00 น. ของวันเสาร์

                เมื่อมีการขาดยาตั้งแต่ 72 ชั่วโมงขึ้นไปก็ทำให้ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย ไปจนกว่าจะรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันครบ 7 วันก่อน (ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ที่ผ่านมา ไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉิน เพราะได้ใช้ “เม็ดยาฮอร์โมน” ติดต่อกันมาไม่น้อยกว่า 7 วันแล้ว)

                แต่เนื่องจากเม็ดยาที่ลืมใช้ เป็น “เม็ดยาฮอร์โมน” 3 เม็ดสุดท้ายในแผง ซึ่งในกรณีที่เหลือ “เม็ดยาฮอร์โมน” ให้ใช้ต่อไม่ถึง 7 วัน ก็ให้ข้ามการใช้ “เม็ดยาหลอก” ไปเลย

                ดังนั้น เมื่อเวลาที่นึกได้ตรงกับเวลารับประทานยาคุมประจำวัน ก็ให้แกะ “เม็ดวันพฤหัส” และ “เม็ดวันศุกร์” ซึ่งเป็น “เม็ดยาฮอร์โมน” 2 เม็ดสุดท้ายในแผง มารับประทานในเวลา 21.00 น. ของวันเสาร์

                แล้วก็ทิ้งยาคุมแผงเดิม และต่อยาคุมแผงใหม่ในเวลา 21.00 น. ของวันอาทิตย์ โดยเริ่มใช้จาก “เม็ดวันอาทิตย์” ในแถบสีแดง

blank

                การลืมรับประทาน “เม็ดยาฮอร์โมน” ต่อเนื่องกันหลายวัน อาจทำให้ประจำเดือนมาก่อนเวลาที่คาดไว้นะคะ

                แต่ถ้าประจำเดือนไม่ได้มาก่อนกำหนด การต่อแผงใหม่โดยข้ามการใช้ “เม็ดยาหลอก” ก็อาจทำให้ประจำเดือนรอบนี้ถูกเลื่อนออกไป แล้วมาในช่วงที่รับประทาน “เม็ดยาหลอก” ของรอบถัดมาแทน

 

 

                อย่างไรก็ตาม การรับประทานยาคุมไม่ตรงเวลา หรือลืมรับประทานบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อลืมรับประทานต่อเนื่องกันหลายวัน ทำให้เสี่ยงที่จะล้มเหลวในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ ดังนั้น หากพบปัญหาเช่นนี้อยู่เรื่อย ๆ ก็ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อเลือกวิธีคุมกำเนิดอื่นที่เหมาะสมกว่านะคะ