เริ่มเผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
ยาคุมยี่ห้อนี้มีอยู่ 2 รูปแบบนะคะ ได้แก่ “พรีม” (Preme) ที่เป็นยาคุมแบบ 21 เม็ด ซึ่งจะได้กล่าวถึงในบทความนี้ และอีกรูปแบบก็คือ “พรีม 28” (Preme 28) ที่เป็นยาคุมแบบ 28 เม็ด ซึ่งจะได้กล่าวถึงในครั้งต่อไป
เม็ดยาทั้ง 21 เม็ดในแผงของ “พรีม” (Preme) มีตัวยาสำคัญเท่ากันทั้งหมด นั่นก็คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน Ethinyl estradiol 0.035 มิลลิกรัม และฮอร์โมนโปรเจสติน Cyproterone acetate 2 มิลลิกรัม
เนื่องจากมีปริมาณ Ethinyl estradiol น้อยกว่า 0.050 มิลลิกรัม จึงจัดว่า “พรีม” เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ประเภทฮอร์โมนต่ำ (Low dose pills) ซึ่งผลข้างเคียงจากเอสโตรเจน เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, บวมน้ำ หรือการเกิดฝ้า จะพบได้น้อยกว่ายาคุมประเภทฮอร์โมนสูง (High dose pills)
ส่วน Cyproterone acetate เป็นโปรเจสตินที่มีผลต้านฤทธิ์แอนโดรเจน การใช้ “พรีม” จึงช่วยลดปัญหาสิวฮอร์โมน, หน้ามัน หรือขนดกได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมที่มีตัวยาโปรเจสตินเป็น Cyproterone acetate อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดได้มากกว่า Levonorgestrel, Norethisterone หรือ Norgestimate
ซึ่งการใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมในผู้ที่อยู่ในเกณฑ์อ้วนมาก หรือมีค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index; BMI) ตั้งแต่ 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรขึ้นไป มีความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (Venous thromboembolism; VTE) ได้มากกว่าผู้ที่ไม่ใช้
ดังนั้น แม้ว่าจะไม่ห้ามใช้ในคนอ้วน แต่ก็ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกสูตรยาคุมที่เหมาะสม หรืออาจพิจารณาทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยกว่า โดยเฉพาะถ้ามีค่า BMI > 35 kg/m2
นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัว, ผู้ที่สูบบุหรี่และมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป, ผู้ที่ต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ นอกเหนือจากการคุมกำเนิด ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ด้วยนะคะ
“พรีม” เป็นยาคุมสูตรเดียวกับ “ไดแอน” แต่ผลิตและจัดจำหน่ายโดย บริษัทไทยนครพัฒนา จำกัด (Thai Nakorn Patana co.ltd) มีราคาแผงละ 110 – 140 บาทโดยประมาณค่ะ
เอกสารอ้างอิง
- FSRH Guideline: Combined Hormonal Contraception. Faculty of Sexual & Reproductive Healthcare, January 2019. (Amended July 2023)
- U.S. Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use. Centers for Disease Control and Prevention, 2016.
- Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use, 5th edition. World Health Organization, 2015.