“ริเกวิดอน” (Rigevidon) เป็นยาคุมรายเดือนชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ด
โดยเม็ดยาสีขาว 21 เม็ดเป็นเม็ดยาฮอร์โมน ซึ่งมีตัวยาเอทธินิล เอสตราไดออล (Ethinyl estradiol; EE) เม็ดละ 0.03 มิลลิกรัม และลีโวนอร์เจสเทรล (Levonorgestrel; LNG) เม็ดละ 0.15 มิลลิกรัม
ส่วนเม็ดยาสีน้ำตาลแดง 7 เม็ดเป็นเม็ดยาเสริมธาตุเหล็ก ซึ่งมีตัวยาเฟอร์รัส ฟูมาเรต (Ferrous fumarate) เม็ดละ 76.05 มิลลิกรัม โดยถือว่าเป็นเม็ดยาหลอก เนื่องจากไม่มีผลในการคุมกำเนิดค่ะ

เนื่องจาก “ริเกวิดอน” มีปริมาณ Ethinyl estradiol น้อยกว่า 0.05 มิลลิกรัม จึงจัดอยู่ในกลุ่มของยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ประเภทฮอร์โมนต่ำ (Low dose pills) ผลข้างเคียงจากเอสโตรเจน ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, บวมน้ำ หรือการเกิดฝ้า จะพบได้น้อยกว่ายาคุมประเภทฮอร์โมนสูง (High dose pills)
แต่อาจพบผลข้างเคียงจากฤทธิ์แอนโดรเจนของ Levonorgestrel เช่น สิว, หน้ามัน หรือขนดก
ส่วนผลข้างเคียงจาก Ferrous fumarate เช่น คลื่นไส้, ไม่สบายท้อง, ท้องผูก, ท้องร่วง, อุจจาระมีสีดำหรือคล้ำขึ้น อาจพบได้บ้างในระหว่างที่ใช้เม็ดยาหลอก
นอกจากนี้ การใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (Venous thromboembolism; VTE) ได้
ซึ่งผู้ที่อยู่ในเกณฑ์อ้วนมาก หรือมีค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index; BMI) ตั้งแต่ 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรขึ้นไป จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น
แม้แนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO), ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (CDC) และคณะอนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาวะทางเพศ สหราชอาณาจักร (FSRH) ไม่ได้ห้ามใช้ในคนอ้วน ถ้าไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันร่วมด้วย
แต่เพื่อความปลอดภัย ก็ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกสูตรยาคุมที่เหมาะสม หรืออาจพิจารณาทางเลือกอื่นแทนการใช้ยาคุมฮอร์โมนรวม โดยเฉพาะผู้ที่มีค่า BMI > 35 kg/m2
อย่างไรก็ตาม ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมที่มีปริมาณเอสโตรเจน Ethinyl estradiol ไม่เกินเม็ดละ 0.03 มิลลิกรัม และใช้ตัวยาโปรเจสตินเป็น Levonorgestrel, Norethisterone หรือ Norgestimate มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดต่ำกว่าสูตรอื่น ๆ
ดังนั้น “ริเกวิดอน” ซึ่งเม็ดยาฮอร์โมนมี Ethinyl estradiol 0.03 มิลลิกรัม และใช้ตัวยา Levonorgestrel จึงเป็นทางเลือกในการคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่เริ่มใช้ยาคุมฮอร์โมนรวม หรือกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงดังกล่าว
ผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ที่ไม่ควรใช้ยาคุม “ริเกวิดอน” เพราะอาจเสี่ยงต่อภาวะเหล็กเกินหากได้รับ Ferrous ปริมาณมาก หรือเป็นประจำ
ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ, ผู้ที่สูบบุหรี่และมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป, ผู้ที่ต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่นอกเหนือจากการคุมกำเนิด ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้นะคะ
“ริเกวิดอน” ผลิตโดย Gedeon Richter Plc. ในฮังการี และนำเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัท เอฟ.ซี.พี. จำกัด (F.C.P. Co.,Ltd.) ราคาประมาณ 60 – 80 บาท
แต่ปัจจุบันไม่มีใช้แล้ว โดยระบบตรวจสอบการอนุญาตของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่ามีการยกเลิกทะเบียนตำรับยานี้ไปเมื่อ 22 กันยายน 2564 ค่ะ
