ยาคุมฮอร์โมนต่ำมาก หรือ Ultra low dose pills หมายถึง ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมที่มีเอสโตรเจนในปริมาณที่ต่ำมาก โดยมีเอทธินิลเอสตราไดออล (Ethinyl estradiol) ไม่เกินเม็ดละ 0.020 มิลลิกรัม
ดังนั้น ผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, บวมน้ำ และฝ้า จะพบได้น้อยจากการใช้ยาคุมชนิดนี้
จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ได้มีข้อห้ามใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่ต้องการลดผลข้างเคียงที่กล่าวไปข้างต้นให้น้อยลง
แม้จะมีปริมาณฮอร์โมนน้อยกว่า แต่กลับมีราคาแพงกว่า โดยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 100 บาท ไปจนถึงหลายร้อยบาท ในขณะที่ยาคุมฮอร์โมนต่ำ (Low dose pills) และยาคุมฮอร์โมนสูง (High dose pills) มีหลายยี่ห้อที่สามารถหาซื้อได้ในราคาที่ไม่เกิน 100 บาท
บทความนี้จึงขอนำเสนอยาคุมฮอร์โมนต่ำมาก ที่มีราคาไม่เกิน 150 บาท จำนวน 13 ยี่ห้อ มาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีงบจำกัดนะคะ โดยจัดแบ่งเป็นกลุ่มยาที่มีสูตรเดียวกันได้ 4 กลุ่ม และในแต่ละกลุ่มจะเรียงราคาจากน้อยไปมาก ดังนี้
-
ยาคุมสูตร Ethinyl estradiol 0.015 มิลลิกรัม + Gestodene 0.060 มิลลิกรัม
ต้นแบบของยาคุมสูตรนี้ ก็คือ “มินิดอซ” (minidoz) นั่นเองค่ะ โดยยี่ห้อที่มีราคาไม่เกิน 150 บาท ตรงตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ก็คือ “ไมนอซ”
ยี่ห้อ : ไมนอซ (Minoz) รูปแบบ : ยาคุม 28 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคา : 110 – 140 บาท |
นอกจากจะเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมที่มีปริมาณฮอร์โมนต่ำที่สุด ซึ่งผลข้างเคียงจากเอสโตรเจนและโปรเจสติน ได้แก่ คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ, บวมน้ำ, ฝ้า, สิว, หน้ามัน หรือขนดก จะพบได้น้อย
อีกจุดเด่นของยาคุมสูตรนี้ก็คือ เป็นยาคุมรูปแบบ 24/4 (หมายถึง ในแผง 28 เม็ด จะมีเม็ดยาฮอร์โมน 24 เม็ด และเม็ดยาหลอก 4 เม็ด) จึงช่วยลดกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual syndrome; PMS) เช่น อารมณ์แปรปรวน, หงุดหงิด, ซึมเศร้า, เครียด, ปวดศีรษะ, ปวดประจำเดือน หรือเจ็บคัดตึงเต้านมได้
การใช้ยาคุมสูตร Ethinyl estradiol / Gestodene พบการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน 9 – 12 ราย ต่อผู้ใช้ 10,000 คนต่อปี อย่างไรก็ตาม บางการศึกษาชี้ว่า หากใช้ปริมาณฮอร์โมนต่ำมากก็อาจพบน้อยกว่านั้น โดยมีความเสี่ยงมากกว่ายากลุ่มที่ 3 แต่น้อยกว่าในกลุ่มที่ 4
-
ยาคุมสูตร Ethinyl estradiol 0.020 มิลลิกรัม + Gestodene 0.075 มิลลิกรัม
ยาคุมสูตรนี้มีทั้งรูปแบบ 21 เม็ดและ 28 เม็ดให้เลือกใช้ โดยมี “เมลลิแอน” (Meliane) และ “เมลลิแอน อีดี” (Meliane ED) เป็นยาคุมต้นแบบ
สำหรับยาคุม 21 เม็ด ได้แก่ “ไซโคลเม็กซ์-20”, “แอนนี่ ลินน์” และ “คลาเรนซ์”
ส่วนยาคุม 28 เม็ด ได้แก่ “ออนเจล 20”, “แอนนี่ ลินน์ 28” และ “คลาเรนซ์ 28”
ยี่ห้อ : ไซโคลเม็กซ์-20 (Ciclomex-20) รูปแบบ : ยาคุม 21 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยานำเข้าจากต่างประเทศ ราคา : 90 – 120 บาท |
|
ยี่ห้อ : ออนเจล 20 (Onjel 20) รูปแบบ : ยาคุม 28 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคา : 90 – 120 บาท |
|
ยี่ห้อ : แอนนี่ ลินน์ (Annylyn) รูปแบบ : ยาคุม 21 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคา : 110 – 130 บาท |
|
ยี่ห้อ : แอนนี่ ลินน์ 28 (Annylyn 28) รูปแบบ : ยาคุม 28 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคา : 110 – 130 บาท |
|
ยี่ห้อ : คลาเรนซ์ (Clarenz) รูปแบบ : ยาคุม 21 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคา : 130 – 150 บาท |
|
ยี่ห้อ : คลาเรนซ์ 28 (Clarenz 28) รูปแบบ : ยาคุม 28 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคา : 130 – 150 บาท |
แม้ว่ายาคุมสูตรนี้จะมีปริมาณฮอร์โมนมากกว่ากลุ่มแรก แต่ก็เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ผลข้างเคียงจากเอสโตรเจนและโปรเจสติน ไม่ว่าจะเป็น คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ, บวมน้ำ, ฝ้า, สิว, หน้ามัน หรือขนดก จึงพบได้น้อยเช่นกัน
การใช้ยาคุมสูตร Ethinyl estradiol / Gestodene พบการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน 9 – 12 ราย ต่อผู้ใช้ 10,000 คนต่อปี อย่างไรก็ตาม บางการศึกษาชี้ว่าหากใช้ปริมาณฮอร์โมนต่ำมาก ความเสี่ยงก็อาจน้อยกว่านั้น โดยมีความเสี่ยงมากกว่ายากลุ่มที่ 3 แต่น้อยกว่าในกลุ่มที่ 4
-
ยาคุมสูตร Ethinyl estradiol 0.020 มิลลิกรัม + Levonorgestrel 0.100 มิลลิกรัม
ยาคุมในกลุ่มนี้ ได้แก่ “โลล่า”
ยี่ห้อ : โลล่า (Lola) รูปแบบ : ยาคุม 21 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยานำเข้าจากต่างประเทศ ราคา : 90 – 120 บาท |
เนื่องจากมีปริมาณเอทธินิลเอสตราไดออลเท่ากับกลุ่มที่ 2 และ 4 ผลข้างเคียงจากเอสโตรเจนจึงไม่แตกต่างกัน
ส่วนเลโวนอร์เจสเทรล (Levonorgestrel) มีฤทธิ์แอนโดรเจนสูง จึงอาจพบปัญหาสิว, หน้ามัน หรือขนดก ได้มากกว่ายาคุมฮอร์โมนต่ำมากกลุ่มอื่น ๆ
ถึงกระนั้น การที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดน้อยที่สุดใน 4 กลุ่ม โดยพบการเกิดลิ่มเลือดอุดตันเพียง 5 – 7 ราย ต่อผู้ใช้ 10,000 คนต่อปี ก็ถือเป็นจุดเด่นของยาคุมกลุ่มนี้ค่ะ
-
ยาคุมสูตร Ethinyl estradiol 0.020 มิลลิกรัม + Desogestrel 0.150 มิลลิกรัม
ยาคุมสูตรนี้มีทั้งรูปแบบ 21 เม็ดและ 28 เม็ดให้เลือกใช้ โดยมี “เมอซิลอน” (Mercilon) และ “เมอซิลอน 28” (Mercilon 28) เป็นยาคุมต้นแบบ
สำหรับยาคุม 21 เม็ด ได้แก่ “โนวีเนท”, “มินนี่” และ “เลสซิลอน 21”
ส่วนยาคุม 28 เม็ด ได้แก่ “มินนี่ 28” และ “เลสซิลอน 28”
ยี่ห้อ : โนวีเนท (Novynette) รูปแบบ : ยาคุม 21 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยานำเข้าจากต่างประเทศ ราคา : 100 – 130 บาท |
|
ยี่ห้อ : มินนี่ (Minny) รูปแบบ : ยาคุม 21 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคา : 110 – 130 บาท |
|
ยี่ห้อ : มินนี่ 28 (Minny 28) รูปแบบ : ยาคุม 28 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคา : 110 – 130 บาท |
|
ยี่ห้อ : เลสซิลอน 21 (Lescilon 21) รูปแบบ : ยาคุม 21 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคา : 110 – 140 บาท |
|
ยี่ห้อ : เลสซิลอน 28 (Lescilon 28) รูปแบบ : ยาคุม 28 เม็ด การขึ้นทะเบียนยา : ยาที่ผลิตภายในประเทศ ราคา : 110 – 140 บาท |
ผลข้างเคียงจากเอสโตรเจนจากการใช้ยาคุมกลุ่มนี้ พบได้น้อยเช่นเดียวกับยาคุมฮอร์โมนต่ำมากกลุ่มอื่น ๆ
การที่ดีโซเจสตริล (Desogestrel) มีฤทธิ์แอนโดรเจนต่ำกว่า ทำให้พบปัญหาสิว, หน้ามัน หรือขนดก จากยาคุมกลุ่มนี้น้อยที่สุดใน 4 กลุ่มที่กล่าวมา
แต่พบการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน 9 – 12 ราย ต่อผู้ใช้ 10,000 คนต่อปี ในขณะที่การใช้ยาคุมใน 3 กลุ่มแรกอาจพบได้น้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม ราคาที่ระบุไว้ในบทความ เป็นเพียงราคาโดยประมาณนะคะ ราคาที่จำหน่ายจริงในร้านยาแต่ละแห่ง อาจแตกต่างไปจากนี้ได้ ซึ่งผู้อ่านสามารถสอบถามเพิ่มเติมจากเภสัชกรประจำร้านยาใกล้บ้านได้ค่ะ
และแม้ว่าจะมีผลข้างเคียงจากเอสโตรเจนน้อย แต่ก็อาจพบปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ง่ายจากการใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนต่ำมาก โดยเฉพาะถ้ารับประทานไม่ตรงเวลานะคะ
ผู้ใช้จึงควรรับประทานให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ ทั้งเพื่อลดผลข้างเคียงนี้ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์
นอกจากนี้ ผู้ที่รับประทานยาหรือสมุนไพรบางชนิด และผู้ที่มีน้ำหนักเกิน อาจเสี่ยงที่จะเกิดความล้มเหลวในการคุมกำเนิดเมื่อใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนต่ำมาก
ส่วนผู้ที่มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน และผู้ที่ใช้ยาคุมฮอร์โมนต่ำมากแล้วก็ยังทนผลข้างเคียงจากเอสโตรเจนไม่ได้ ควรพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมน หรือใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวซึ่งมีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสติน
จึงควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ เพื่อพิจารณายาคุมหรือวิธีคุมกำเนิดอื่นที่เหมาะสม ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในผู้ใช้แต่ละรายค่ะ