ถอดยาฝังคุมกำเนิดออกแล้ว และฉีดยาคุมแบบ 3 เดือนต่อทันที หลังจากนั้นไม่ถึง 7 วันก็มีเพศสัมพันธ์หลั่งใน จะท้องมั้ย ต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินหรือเปล่า
เมื่อถามว่า หากฉีดยาคุมแบบ 3 เดือนทันที หลังจากที่ถอดยาฝังคุมกำเนิดออก จะให้ผลคุมกำเนิดต่อเนื่องเลย หรือจำเป็นต้องใช้มาตรการป้องกันอื่น ๆ ร่วมด้วย อาจได้รับคำตอบที่แตกต่างกันค่ะ ขึ้นกับ ประเภทของยาฝังคุมกำเนิดที่เคยใช้, กำหนดเวลาในการถอดยาฝังคุมกำเนิดออก และแหล่งข้อมูลที่นำมาอ้างอิง
ในปัจจุบัน ยาฝังคุมกำเนิดที่ใช้ในประเทศไทย มีอยู่ 2 ชนิด อย่างแรก ก็คือ ยาฝังคุมกำเนิดชนิดตัวยาอีโทโนเจสเทรล (Etonogestrel Implant; ETG-IMP1 หรือ ENG-IMP3) ซึ่งเป็นยาฝังคุมกำเนิดชนิด 1 หลอด ได้แก่ “อิมพลานอน เอ็นเอ็กซ์ที” (Implanon NXT) หรืออาจรู้จักกันในชื่อ “เน็กซ์พลานอน” (Nexplanon) โดยมีตัวยาสำคัญบรรจุอยู่ 68 มิลลิกรัม และให้ผลคุมกำเนิดนาน 3 ปี
อย่างที่สอง ก็คือ ยาฝังคุมกำเนิดชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล (Levonorgestrel Implant; LNG-IMP) ซึ่งเป็นยาฝังคุมกำเนิดชนิด 2 หลอด ได้แก่ “จาเดลล์” (Jadelle) โดยแต่ละหลอดจะบรรจุตัวยาสำคัญอยู่ 75 มิลลิกรัม และให้ผลคุมกำเนิดนาน 5 ปี
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 80 กิโลกรัมขึ้นไป ควรถอด “จาเดลล์” ออกเมื่อใช้ครบ 4 ปี เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์สูงขึ้นเป็น 6% สำหรับการใช้ในปีที่ 51
-
ยาฝังคุมกำเนิดชนิดตัวยาอีโทโนเจสเทรล 1 หลอด
คำแนะนำในการเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิด จากการฝังยาคุมกำเนิดชนิดตัวยาอีโทโนเจสเทรล (“อิมพลานอน เอ็นเอ็กซ์ที”) ไปเป็นการฉีดยาคุมกำเนิดแบบ 3 เดือน ในบทความนี้จะอ้างอิงจากแนวทางของ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention; CDC), คณะอนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาวะทางเพศ สหราชอาณาจักร (Faculty of Sexual & Reproductive Healthcare; FSRH) และ องค์การอนามัยโลก (World Health Organization; WHO) นะคะ เพื่อให้เห็นว่าอาจมีความแตกต่าง หรือบางอย่างก็สอดคล้องกัน
โดยคำแนะนำของ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (CDC) ก็คือ หากมีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ ก็สามารถฉีดยาคุมกำเนิดได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน แต่ถ้าเริ่มฉีดยาคุมเข็มแรก ไม่ทัน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์หรือให้ใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วยไปอีก 7 วัน2
และเนื่องจากการฝังยาคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โอกาสตั้งครรภ์ในระหว่างที่ยังไม่ครบกำหนดถอดยาฝังคุมกำเนิดออก ถือว่ามีน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล
ดังนั้น ผู้ที่ใช้ “อิมพลานอน เอ็นเอ็กซ์ที” ที่ถอดยาฝังคุมกำเนิดออกภายใน 3 ปี จึงสามารถฉีดยาคุมกำเนิดต่อได้เลยนะคะ แต่ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันร่วมด้วย ไปอีก 7 วันหลังฉีด
หรือไปฉีดยาคุมล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนที่จะถอดยาฝังคุมกำเนิดออกตามกำหนด 3 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันทุกวันก็ได้ค่ะ
ในขณะที่ คณะอนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาวะทางเพศ สหราชอาณาจักร (FSRH) และ องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำแนะนำว่า หากถอด “อิมพลานอน เอ็นเอ็กซ์ที” ออกภายใน 3 ปี แล้วก็ฉีดยาคุมกำเนิดต่อทันที จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง จึงไม่จำเป็นจะต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วยนะคะ3, 4
แต่ถ้าเกินกำหนด 3 ปีไปแล้ว ประสิทธิภาพที่ลดลงอาจทำให้ป้องกันไม่ได้ผล ดังนั้น หากต้องการถอด “อิมพลานอน เอ็นเอ็กซ์ที” ออกแล้วฉีดยาคุมต่อ ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ก่อน (และหากมีความเสี่ยงมาก อาจเลี่ยงไปใช้ยาคุมรายเดือนแทน จนกว่าจะมั่นใจแล้วว่าไม่ได้ตั้งครรภ์แน่นอน จึงเริ่มฉีดยาคุมแบบ 3 เดือนในภายหลัง) โดยในช่วงแรก ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยค่ะ3
-
ยาฝังคุมกำเนิดชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล 2 หลอด
เพราะแนวทางของ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา และ คณะอนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาวะทางเพศ สหราชอาณาจักร กำหนดไว้สำหรับยาฝังคุมกำเนิดชนิดตัวยาอีโทโนเจสเทรล (“อิมพลานอน เอ็นเอ็กซ์ที”) เท่านั้น
การเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิด จาก การฝังยาคุมกำเนิดชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล (“จาเดลล์”) ไปเป็นการฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน ในบทความนี้จึงอ้างอิงจากคู่มือการวางแผนครอบครัว ขององค์การอนามัยโลกนะคะ
ซึ่งแนะนำว่า หากมีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ ก็สามารถฉีดยาคุมกำเนิดได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อน และไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย4
นั่นคือ หากยังไม่เกินกำหนด 5 ปี (หรืออาจเป็น 4 ปีถ้ามีน้ำหนักตั้งแต่ 80 กิโลกรัมขึ้นไป1) เมื่อถอด “จาเดลล์” ออกแล้วก็ฉีดยาคุมกำเนิดต่อทันที จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง จึงสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ ไม่จำเป็นจะต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยค่ะ
และเนื่องจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำคู่มือการวางแผนครอบครัว ซึ่งปรับปรุงข้อมูลเป็นฉบับล่าสุดในปี พ.ศ.2563 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขใช้เป็นแนวทางในการให้บริการวางแผนครอบครัว โดยแปลเนื้อหามาจากต้นฉบับ คือ Family planning: A Global Handbook for Providers ขององค์การอนามัยโลก
ดังนั้น จากกรณีตัวอย่าง ไม่ว่าผู้ถามจะใช้ยาฝังคุมกำเนิดชนิดใด หากถอดออกตามกำหนด หรือก่อนกำหนด แล้วฉีดยาคุมแบบ 3 เดือนต่อทันที ก็อาจได้รับแนะนำ โดยอ้างอิงตามคู่มือนี้ว่า สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ และไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉิน เพราะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้วนั่นเอง
เอกสารอ้างอิง
- Selected Practice Recommendations for Contraceptive Use, 3rd edition. World Health Organization, 2016.
- U.S. Selected Practice Recommendations for Contraceptive Use. Centers for Disease Control and Prevention, 2016.
- FSRH Guideline: Progestogen-only Implant. Faculty of Sexual & Reproductive Healthcare, February 2021. (Amended July 2023)
- Family planning: A Global Handbook for Providers, 2022 edition.