“เฮอร์ซ” (Herz) เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ดที่เป็น Extended-cycle 24/4 regimen หรือเรียกง่าย ๆ ว่ายาคุมสูตร 24/4
โดย 24 เม็ดแรกที่มีสีชมพูคือเม็ดยาฮอร์โมน ซึ่งมีตัวยาฮอร์โมนเอสโตรเจน Ethinyl estradiol เม็ดละ 0.02 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนโปรเจสติน Drospirenone เม็ดละ 3 มิลลิกรัม
ส่วน 4 เม็ดสุดท้ายที่มีสีขาวคือเม็ดยาหลอก ซึ่งไม่ได้มีตัวยาสำคัญใด ๆ
ยาคุม “เฮอร์ซ” จะมีตัวเลขลำดับการใช้ 1 – 28 ระบุไว้ในแผงด้านที่ไม่เห็นเม็ดยา
เมื่อรับประทานยาคุม “เฮอร์ซ” เรียงตามลำดับ ก็จะทำให้ผู้ใช้ได้รับฮอร์โมนติดต่อกันในช่วง 24 วันแรก และมีช่วงปลอดฮอร์โมนใน 4 วันสุดท้ายของแผงนั่นเอง
ถ้ารับประทาน “เฮอร์ซ” ย้อนศร หรือใช้เม็ดยาผิดตำแหน่ง แล้วทำให้เม็ดยาหลอกถูกนำมาใช้แทนเม็ดยาฮอร์โมน (ใช้เม็ดสีขาวแทนเม็ดสีชมพู) ก็จะลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
จึงต้องแก้ไขด้วยการรับประทานเม็ดยาฮอร์โมน (เม็ดสีชมพู) ทดแทนที่ขาดไป ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ถ้าใช้เม็ดยาฮอร์โมนสลับตำแหน่งกันเอง (ใช้เม็ดสีชมพูแทนเม็ดสีชมพู) หรือใช้เม็ดยาหลอกสลับกัน (ใช้เม็ดสีขาวแทนเม็ดสีขาว) ก็ไม่มีปัญหา เพราะประสิทธิภาพไม่ต่างกัน
จึงไม่ต้องแกะเม็ดยาในตำแหน่งที่ถูกต้องมารับประทานซ้ำอีก
- ตัวอย่างที่ 1 : รับประทานผิดเม็ด แต่เป็นสีเดียวกัน
เมื่อผู้ใช้รับประทานยาคุม “เฮอร์ซ” ไปครบ 2 แถวแรกแล้ว เม็ดยาที่รับประทานในวันถัดไป ก็ควรจะเป็น “เม็ดที่ 15” (เม็ดสีชมพู)
แต่ถ้าแกะเม็ดยามาใช้ผิดตำแหน่ง โดยแกะ “เม็ดที่ 21” (เม็ดสีชมพู) มาใช้แทน ก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากเม็ดยาทั้งสองมีสีเดียวกัน โดยเป็นเม็ดยาฮอร์โมนเหมือนกัน จึงไม่ต้องแกะเม็ดยาในตำแหน่งที่ถูกต้องมารับประทานซ้ำอีก
หลักสำคัญของการใช้ยาคุม “เฮอร์ซ” ก็คือ จะต้องรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันให้ครบ 24 วันก่อน แล้วตามด้วยการรับประทานเม็ดยาหลอกอีก 4 วัน ดังนั้น แม้จะสลับตำแหน่ง แต่ถ้ายังคงได้ใช้เม็ดสีชมพูใน 24 วันแรก แล้วตามด้วยเม็ดสีขาวใน 4 วันสุดท้าย ก็ถือว่าตรงตามหลักการดังกล่าวนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ลูกศรและตัวเลขลำดับที่ระบุไว้ในแผงยา จะช่วยให้ตรวจสอบได้ง่าย และลดความสับสนที่เสี่ยงต่อการรับประทานผิด ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ ก็ควรใช้ให้ถูกต้องตามลำดับ
การแก้ไข สามารถทำได้หลายวิธี วิธีแรกที่จะแนะนำ ก็คือ ให้รับประทานเม็ดยาในแถวนี้ย้อนศรต่อไปจนหมดแถว (ลำดับการใช้จริงจึงเป็นตามตัวเลขสีดำในภาพ)
เมื่อใช้เม็ดยาในแถวนี้หมดแล้ว จึงค่อยรับประทานเม็ดยาในแถวต่อไปตามลำดับปกติ
หรือวิธีที่สอง คือ ให้รับประทานเม็ดยาที่เหลืออยู่ 6 เม็ดในแถวนี้ เรียงตามลูกศร (ลำดับการใช้จริงจึงเป็นตามตัวเลขสีดำในภาพ)
เมื่อใช้เม็ดยาในแถวนี้หมดแล้ว ก็รับประทานเม็ดยาในแถวต่อไปตามลำดับปกติ
และวิธีสุดท้ายที่จะแนะนำ เหมาะสำหรับผู้ที่ไล่ลำดับเม็ดยาในแถวเทียบกับวันในสัปดาห์อยู่เสมอ สมมติว่าเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้ในวันจันทร์ เมื่อไล่ลำดับตามลูกศร เม็ดแรกของแต่ละแถว (เม็ดที่ 1, 8, 15 และ 22) ก็จะตรงกับวันจันทร์ด้วยเช่นกัน
หากเผลอรับประทานเม็ดแรกในแถวที่สามแบบย้อนศร โดยแกะ “เม็ดที่ 21” มารับประทานในวันจันทร์ แทนที่จะเป็น “เม็ดที่ 15” ตามลำดับลูกศร
ก็ไม่เป็นไร ให้รับประทาน “เม็ดที่ 16 – 20” ตามการไล่ลำดับปกติ
และเมื่อถึงวันอาทิตย์ ก็ให้แกะ “เม็ดที่ 15” มารับประทานแทน “เม็ดที่ 21” ซึ่งถูกใช้ไปแล้วในวันจันทร์ได้เลยค่ะ
จะเห็นว่ามีแนวทางแก้ไขได้หลายวิธี ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวก
และเช่นเดียวกัน ในกรณีที่ใช้ย้อนศร โดยการสลับเม็ดยาหลอกกับเม็ดยาหลอก (ใช้เม็ดสีขาวแทนเม็ดสีขาว) ก็สามารถแก้ไขตามแนวทางข้างต้นได้เช่นกันนะคะ
- ตัวอย่างที่ 2 : รับประทานเม็ดยาผิดสี
เมื่อผู้ใช้รับประทานยาคุม “เฮอร์ซ” ไปครบ 3 แถวแรกแล้ว เม็ดยาที่รับประทานในวันถัดไป ก็ควรจะเป็น “เม็ดที่ 22” ซึ่งเป็นเม็ดสีชมพูนั่นเอง
แต่ถ้าแกะเม็ดยามาใช้ผิดตำแหน่ง โดยแกะ “เม็ดที่ 28” ซึ่งเป็นเม็ดสีขาวมาใช้แทน ก็จะทำให้ไม่ได้รับฮอร์โมนในวันที่ควรจะได้รับ ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
จึงควรแก้ไขด้วยการรับประทานเม็ดที่ถูกต้องทันที หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
นั่นคือ ถ้ารู้ตัวก่อนที่จะถึงเวลารับประทานยาคุมเม็ดถัดไป ก็ให้แกะ “เม็ดที่ 22” มารับประทานทันทีที่นึกได้ แล้วรอรับประทานเม็ดถัดไปตามเวลาปกติ
หรือถ้าถึงเวลารับประทานยาคุมในวันถัดมาแล้ว ก็ให้แกะ “เม็ดที่ 22” และ “เม็ดที่ 23” มารับประทานพร้อมกัน จากนั้นก็รับประทานต่อวันละเม็ดตามปกติ
แต่เมื่อถึงวันที่จะต้องรับประทาน “เม็ดที่ 28” ซึ่งไม่มีเม็ดยาอยู่ในแผงแล้ว เนื่องจากมีการแกะมาใช้ผิดไปก่อนหน้านี้ ก็ให้เว้นว่างในวันนั้นแทน เพื่อให้มีช่วงปลอดฮอร์โมนครบ 4 วัน
เพราะการเว้นว่างดังกล่าว ก็ไม่ต่างจากการรับประทานเม็ดสีขาวซึ่งเป็นเม็ดยาหลอก โดยถือเป็นช่วงปลอดฮอร์โมนนั่นเอง
จากนั้นก็ต่อแผงใหม่ในวันถัดมา
หรือถ้ากลัวว่าจะสับสน ก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่โดยไม่ต้องเว้นว่างทดแทนเม็ดยาหลอกที่หายไปก็ได้ เพราะแม้จะทำให้รอบนี้มีช่วงปลอดฮอร์โมนสั้นกว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยาคุมค่ะ
หากรับประทานผิด 1 เม็ด โดยใช้เม็ดยาหลอกแทนเม็ดยาฮอร์โมน เมื่อแก้ไขตามที่กล่าวไปข้างต้น ก็จะมีการขาดยาไม่เกิน 24 ชั่วโมง ซึ่งสำหรับยาคุม “เฮอร์ซ” หากขาดยาไม่ถึง 48 ชั่วโมง ถือว่ายังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องนะคะ