CONTACT ME

 
“คุยเฟื่องเรื่องยา” (talkativepharmacist) เป็นเว็บไซต์ที่จัดทำขึ้น
เพื่อให้ความรู้ด้านยาและการดูแลสุขภาพ สำหรับประชาชนทั่วไป
 
***โดยไม่ได้มีการจำหน่ายยาใด ๆ***
 
 
การแสดงภาพของยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นใด โดยไม่ปิดบังชื่อการค้า
ก็เพื่อแนะนำวิธีใช้ และข้อควรรู้อื่น ๆ ซึ่งอาจมีรูปแบบจำเพาะ หรือรายละเอียดที่แตกต่างกัน
ให้สามารถเข้าใจได้ง่าย, ชัดเจน และถูกต้องตามหลักวิชาการ
 
*** ไม่ได้มีเจตนาเพื่อส่งเสริม หรือสนับสนุน ผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่ง ***
 
 
หากมีข้อเสนอแนะ สามารถติดต่อได้ที่ แชทกับ คุยเฟื่องเรื่องยา
 
 
แต่ในกรณีที่ต้องการสอบถามปัญหาด้านยา
การปรึกษาเภสัชกรในโรงพยาบาลที่ท่านมีประวัติการรักษา
หรือเภสัชกรในร้านยาใกล้บ้าน
น่าจะได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและรวดเร็วกว่านะคะ

28 thoughts on “CONTACT ME

  1. มาทำงานต่างจังหวัดแต่ลืมเอาแผงยาคุมมา สามารถซื้อแผงใหม่มากินต่อได้มั้ยค่ะ (เมโลเดีย 21 เม็ด)

    1. เพื่อให้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง ด้วยประสิทธิภาพสูงสุดตามที่ควรเป็น แนะนำให้คุณศิรสิทธิ์ซื้อยาคุมแผงใหม่มารับประทานนะคะ โดยนับต่อจากแผงเดิมได้เลย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใช้แผงเดิมมาแล้ว 10 วัน ก็ให้รับประทานแผงใหม่ต่ออีก 11 วัน จากนั้นจึงเว้นว่าง 7 วันเป็นช่วงปลอดฮอร์โมน ก่อนจะเริ่มรับประทานยาคุมรอบใหม่

      ซึ่งยาคุมที่เหลือ ก็ไม่ต้องทิ้งให้สิ้นเปลือง เพราะสามารถนำมารับประทานในรอบใหม่ได้ค่ะ จากตัวอย่างที่กล่าวไปข้างต้น จะมีแผงใหม่เหลือ 10 เม็ด และมีแผงเดิมเหลือ 11 เม็ด ก็นำมาใช้ต่อเนื่องกันได้ 21 วันพอดี ใช้ครบแล้วก็เว้นว่าง 7 วัน แล้วจึงค่อยซื้อยาคุมมารับประทานต่อในรอบถัดไป

      ยาคุมทั้ง 21 เม็ดในแผงของ “เมโลเดีย” มีตัวยาเหมือนกันทั้งหมด การใช้ผิดลำดับหรือเปลี่ยนแผง ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยา หากยังมีการรับประทานต่อเนื่องและตรงเวลาสม่ำเสมอ จึงไม่ต้องกังวลกับการเปลี่ยนแผงไปมานะคะ

      แต่ควรจะแกะเม็ดยาที่ระบุตัวย่อตรงกับวันที่ใช้ เพื่อช่วยให้ตรวจสอบประจำวันได้ง่าย จะได้ป้องกันการรับประทานผิดพลาด

      และในกรณีที่หาซื้อ “เมโลเดีย” ไม่ได้ คุณศิรสิทธิ์ก็สามารถใช้ “ยาสมิน” หรือ “จัสติมา” แทนได้เลย เนื่องจากเป็นยาคุมสูตรเดียวกันค่ะ (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความ หาซื้อ Melodia ไม่ได้… จะใช้อะไรแทน?!?)

  2. ปวดหัวบ่อยๆ ยิ่งใกล้ตอนมีประจำเดือน ยิ่งปวดทุกวัน
    แนะนำยาคุมยี่ห้อไหนให้ได้บ้างไหมคะ

    1. เนื่องจากผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจนอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ ดังนั้น การคุมกำเนิดด้วยวิธีที่ไม่ใช้ฮอร์โมน หรือมีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสติน โดยทั่วไปจะถือว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับผู้ที่มีปัญหาดังกล่าวนะคะ

      อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ก็มีข้อควรพิจารณาดังนี้ค่ะ

      ในกรณีของอาการปวดศีรษะทั่วไป และกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน ไม่ได้มีข้อห้ามในการใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม แต่ควรเลือกประเภทฮอร์โมนต่ำ/ฮอร์โมนต่ำมาก เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหากยังทนผลข้างเคียงจากเอสโตรเจนไม่ได้ ก็ควรเปลี่ยนไปใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว หรือคุมกำเนิดด้วยวิธีที่ไม่ใช้ฮอร์โมน

      แต่ในกรณีของอาการปวดศีรษะไมเกรน ต้องพิจารณาว่าเป็นไมเกรนชนิดที่ไม่มีอาการเตือน (Migraine without aura) หรือ ไมเกรนชนิดที่มีอาการเตือน (Migraine with aura) นะคะ

      สำหรับไมเกรนชนิดที่ไม่มีอาการเตือน แนวทางของสหรัฐอเมริกา (U.S. Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use; 2016) แนะนำว่าสามารถใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมได้ แต่ควรมีการตรวจติดตามผล

      จึงอาจใช้หลักการเดียวกันกับที่กล่าวไปข้างต้น นั่นคือ เลือกยาคุมประเภทฮอร์โมนต่ำ/ต่ำมาก และถ้าปวดศีรษะบ่อยขึ้นหรือรุนแรงมากขึ้น ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดที่ไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน

      คำแนะนำข้างต้นสอดคล้องกับแนวทางของอังกฤษ (UK Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use; 2016) ซึ่งเคร่งครัดกว่าในบางประเด็น

      ส่วนไมเกรนชนิดที่มีอาการเตือน การใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองชนิดสมองขาดเลือด (Ischemic Stroke) จึงห้ามใช้โดยเด็ดขาด และให้พิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่ไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนแทนค่ะ

      ในกรณีของคุณลูกศร หากยังไม่เคยรับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ หรือไม่เคยใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิดมาก่อน เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกใกล้บ้าน เพื่อพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมนะคะ

  3. สวัสดีครับ อยากให้ เว็บไซต์ มี ประวัติควาเป็นมา ผู้จัดทำ อะไรแบบนี้

    เว็บไซต์ ค่อยข้างดู ลึกลับ ไปนิดหน่อยครับ ถ้าให้ดี อยากให้ Content เพิ่มเติม ใน facebook ด้วย ครับ

    1. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ขอน้อมรับไว้เพื่อนำไปปรับปรุงค่ะ

  4. ถ้ากินยาคุมยาสลืมกินเม็ดที่12-13 แล้วกิน2เม็ดตอนเช้าละก็ทานต่อมาเรื่อยๆปกติ หลั่งในวันที่เม็ดที่19 เป็นอะไรไหมคะ ต้องทานยาคุมฉุกเฉินไหม

    1. ยาคุมยาสจะไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง หากลืมรับประทานติดต่อกันตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึ้นไปค่ะ

      ดังนั้น นับจากเวลาที่ควรรับประทานเม็ดที่ 12 ไปหาเวลาที่กลับมารับประทานยาคุมต่อ ถ้าห่างกันไม่ถึง 48 ชั่วโมง ก็ยังมีผลคุมกำเนิดอยู่ จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ ไม่ต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรอง

      แต่วิธีแก้ไขที่เหมาะสม ก็คือ ควรจะรับประทานยาคุมที่ลืมเพียงเม็ดเดียวในเวลาที่นึกได้ โดยอาจใช้เม็ดที่ 13 ซึ่งเป็นเม็ดล่าสุดที่ลืม ส่วนเม็ดที่ 12 ให้แกะทิ้งไป แล้วรอรับประทานเม็ดต่อไปซึ่งก็คือเม็ดที่ 14 ตามเวลาปกติ เพราะการรับประทานมากไปกว่าที่แนะนำ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น

      (อ่านเพิ่มเติมได้จากบทความ ลืมกินยาคุม “ยาส”)

      และต่อไปคุณ Geee ก็ควรรับประทานยาคุมให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันนะคะ หรือถ้ายังมีปัญหาลืมรับประทานยาคุมบ่อยครั้ง แนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมค่ะ

    1. ยาคุมกำเนิดจัดอยู่ในกลุ่มของ “ยาอันตราย” จึงต้องจำหน่ายในร้านยา ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการกำหนดไว้ในใบอนุญาต ผ่านการควบคุมมาตรฐาน และได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากผู้ปฏิบัติวิชาชีพโดยตรง ดังนั้น แนะนำให้คุณปาริชาตติดต่อร้านยาใกล้บ้านนะคะ

      หากหาซื้อ “โกวานา” / “โกวานา อีดี” ไม่ได้ ก็สามารถใช้ยาคุมสูตรเดียวกันอย่าง “คาเมลล่า” / “คาเมลล่า 28” แทน หรือรับคำแนะนำจากเภสัชกรประจำร้านเพื่อหายาคุมยี่ห้ออื่น ๆ ที่เหมาะสมได้ค่ะ

  5. อยากสอบถามค่ะถ้ากิน Dafne 35(21 เม็ด) เดือนมีนา แล้วพอเดือนเมษาเปลี่ยนมากิน พรีม(21เม็ด) ได้ไหมคะ จะมีผลไรไหมคะ

    1. “แดฟเน่ 35” และ “พรีม” เป็นยาคุมสูตรเดียวกัน นั่นคือ แต่ละเม็ดจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจน Ethinyl estradiol 0.035 มิลลิกรัม รวมกับฮอร์โมนโปรเจสติน Cyproterone acetate 2 มิลลิกรัม ดังนั้น ประสิทธิภาพและผลข้างเคียงจึงไม่แตกต่างกันนะคะ

      หลังจากที่คุณ Supatsorn ใช้ “แดฟเน่ 35” หมดแผง ให้เว้นว่างเป็นช่วงปลอดฮอร์โมน 7 วัน ซึ่งประจำเดือนน่าจะมาในวันที่ 3 หรือ 4 ของการเว้นว่าง หรืออาจคลาดเคลื่อนจากนั้นเล็กน้อย เมื่อประจำเดือนมาแล้วก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ ครบกำหนดก็เริ่มรับประทาน “พรีม” ได้เลย และถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันค่ะ

      อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นยาคุมแบบ 21 เม็ดเหมือนกัน แต่รูปแบบการใช้ก็แตกต่างกันเล็กน้อยนะคะ โดยในแผงของ “แดฟเน่ 35” จะระบุเป็น “ตัวเลขลำดับการใช้ 1 – 21” และใช้ร่วมกับแถบสติ๊กเกอร์เพื่อเทียบกับวันในสัปดาห์ ส่วน “พรีม” จะระบุเป็น “ตัวย่อของวันในสัปดาห์” ไว้ในแผง

      เมื่อใช้ “พรีม” คุณ Supatsorn จึงควรแกะเม็ดยาที่ระบุตัวย่อตรงกับวันที่ใช้จริง เช่น ถ้าเริ่มใช้วันพุธ ก็เลือกเม็ดยาที่ระบุตัวย่อว่า “พ” (มีอยู่ 3 ตำแหน่ง จะเลือกจากตำแหน่งใดก็ได้) แล้วใช้ต่อวันละเม็ดตามลำดับไปจนครบทั้ง 21 เม็ด จากนั้นจึงเว้นว่าง 7 วันก่อนต่อแผงถัดไปค่ะ

      หรืออ่านเพิ่มเติมได้จากบทความ วิธีรับประทานยาคุม “พรีม” (Preme)

  6. กราบอนุญาต ขอนำเพจไปแนะนำใน FB นะครับ

  7. สวัสดีค่ะ จะสอบถามเรื่องยาคุมกับผมร่วงค่ะ พอดีอายุ24-25 แต่ว่าเคยทานไดแอน 6เดือนได้ แล้วรับกับอาการคลื่นไส้ไม่ไหวเลยเปลี่ยนมาทานแยสมินได้3ปีได้แล้วค่ะ ทีนี้คือผมร่วงแบบหนักมากตลอดที่กินมา พอจะมีตัวไหนที่ช่วยให้ร่วงน้อยลงไหมคะถ้าจะเปลี่ยนยาคุม

    1. แม้ว่าปัญหาผมร่วงจากฮอร์โมนจะเป็นผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการใช้ยาคุมกำเนิด แต่ “ยาสมิน” ก็เป็นหนึ่งในหลายยี่ห้อที่มีผลข้างเคียงดังกล่าวน้อยมากค่ะ จึงไม่แน่ใจว่าในกรณีของคุณธนัชชาเกิดจาก “ยาสมิน” จริงหรือเปล่า

      หากไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ในการใช้ยาคุมกำเนิด และไม่ต้องการใช้สูตร “ไดแอน” หรือ “ยาสมิน” อาจพิจารณาสูตร “บีลาร่า” หรือ “ชาริว่า” แทนได้ แต่ประสิทธิภาพไม่ได้เหนือกว่า อีกทั้งจะไม่มีผลต้านการบวมน้ำเหมือนเดิมนะคะ

      อย่างไรก็ตาม การติดตามผลหลังเปลี่ยนยาคุมต้องใช้เวลา 3 – 6 เดือน และเนื่องจากปัญหาผมร่วงอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ การไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสม น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ

  8. ยาคุมยี่ห้อวันเดย์ ไม่สามารถหาซื้อได้ใช้ยี่ห้ออะไรแทนคะ

    1. ในกรณีที่หาซื้อ “วันเดย์” ไม่ได้ คุณสุภาพรสามารถใช้ “มาร์กาเร็ต เอ็กซ์.โอ.” (Margaret X.O.) แทนได้ค่ะ

      เนื่องจาก “เม็ดยาฮอร์โมน” มีตัวยาฮอร์โมน Mestranol 0.05 มิลลิกรัม + Norethisterone (Norethindrone) 1 มิลลิกรัม และ “เม็ดยาหลอก” มีตัวยาบำรุงเลือด Ferrous fumarate 75 มิลลิกรัม เหมือนกันกับ “วันเดย์”

      หรืออาจพิจารณาการใช้ “อานาไม” (Anamai) แทนก็ได้เช่นกันนะคะ เพราะแม้ว่า “เม็ดยาหลอก” ของ “อานาไม” จะเป็นเพียงเม็ดแป้ง ไม่ใช่ยาบำรุงเลือด แต่ตัวยาสำคัญใน “เม็ดยาฮอร์โมน” ก็เหมือนกันกับ “วันเดย์” และ “มาร์กาเร็ต เอ็กซ์.โอ.” นั่นเองค่ะ

  9. อบสกขอคำแนะนำการรับประทานยาคุมกำเนิดสำหรับสาวนน.60+ ค่ะ ครั้งแรกของการรับประทาน อยากทราบว่าตัวไหนดีค่ะ

    1. ไม่มีข้อจำกัดในการรับประทานยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index; BMI) น้อยกว่า 35 กิโลกรัม/ตารางเมตรค่ะ

      ดังนั้น หากคุณสาวิตรีมีค่าดัชนีมวลกายน้อยกว่า 35 กิโลกรัม/ตารางเมตร และไม่มีข้อจำกัดอื่น ๆ ในการใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด เป็นต้นว่า ไม่ได้อยู่ในช่วง 6 สัปดาห์หลังคลอด, ไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ และไม่สูบบุหรี่ ก็สามารถรับประทานยาคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยวหรือชนิดฮอร์โมนรวม

      ซึ่งในกรณีที่ต้องการใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม…

      – ถ้ามีค่าดัชนีมวลกายไม่ถึง 25 กิโลกรัม/ตารางเมตร ควรเลือกยาคุมฮอร์โมนต่ำมาก หรือจะเป็นยาคุมฮอร์โมนต่ำก็ได้นะคะ เพื่อลดความเสี่ยงรวมทั้งอาการอันไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาคุมฮอร์โมนสูง

      – แต่หากมีค่าดัชนีมวลกาย 25 – 34.9 กิโลกรัม/ตารางเมตร ยาคุมฮอร์โมนต่ำน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพื่อให้มั่นใจว่ายาคุมจะสามารถยับยั้งการตกไข่และป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

      แหล่งอ้างอิง
      1. Summary Chart of U.S. Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use. (Updated in 2020)
      2. UKMEC 2016 Summary Sheets. Updated September 2019.

Comments are closed.